วิคเตอร์ บอนดาเรฟ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศรัสเซีย ระบุในการให้สัมภาษณ์ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวันพฤหัสบดี (5 พฤศจิกายน) ว่ารัสเซียได้ส่งเครื่องยิงจรวดมิสไซล์ต่อต้านอากาศยานไปที่ซีเรียเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ
บอนดาเรฟ บอกกับหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ คอมโซมอลสกายาว่า”เราไม่ได้ส่งไปแค่เครื่องบินรบ เครื่องบินทิ้งระเบิดและเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น แต่ยังมีเครื่องยิงจรวดต่อต้านอากาศยานด้วย”
เขาบอกว่า รัสเซียตัดสินใจนำเครื่องยิงจรวดไปซีเรียเพราะต้องเอาไว้เผื่อรับมือภัยคุกคามทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นได้
เขาอ้างว่า “มันอาจเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นได้ ลองนึกภาพว่าเครื่องบินของกองทัพถูกชิงเอาไปไว้ในประเทศข้างเคียง แล้วนำมาใช้โจมตีเรา เราต้องพร้อมรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้”
บอนดาเรฟบอกว่า รัสเซียมีเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์อยู่ในซีเรียมากกว่า 50 ลำ ในตอนนี้จึงไม่ต้องการเพิ่มแล้ว
เขาบอกด้วยว่าเครื่องบินของรัสเซียหลงเข้าไปในน่านฟ้าของตุรกีเมื่อเดือนตุลาคมก็เพราะว่า ขณะบินเลียบแนวชายแดนตุรกีที่มีเมฆหนาทึบ อุปกรณ์บนเครื่องแสดงให้เห็นว่าระบบป้องกันอากาศยานที่อยู่บนภาคพื้นดินกำลังพยายามล็อคเป้าเครื่องบิน
“ด้วยเหตุนั้นนักบินก็เลยต้องบังคับเครื่องให้บินหลบหลีก ทำให้เขาเข้าไปในน่านฟ้าตุรกีเล็กน้อย เรื่องนี้เราต้องยอมรับตรงๆ” บอนดาเรฟ กล่าว
ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุเพียงแค่มีเครื่องบินหลงเข้าไปในน่านฟ้าตุรกีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม เพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย
ตุรกีระบุว่า เครื่องบินรัสเซียยอมออกจากน่านฟ้าของตนหลังจากที่ถูกสกัดโดยเครื่องบินรบ เอฟ-16 จำนวน 2 ลำของตุรกี
นาโต้เรียกเหตุการณ์ครั้งนั้นว่าเป็น “การละเมิดอย่างร้ายแรง”
และการเปิดเผยถึงการมีระบบต่อต้านอากาศยานของรัสเซียติดตั้งอยู่ในซีเรียมีขึ้นหลังจากสหรัฐปล่อยข่าวว่ามีการติดตั้งจรวดอากาศสู่อากาศให้กับเครื่องบินรบ F-15 ที่ปฏิบัติการเหนือน่านฟ้าซีเรียด้วย