เกิดการสู้รบกันอย่างหนักหน่วงในเมืองเบงกาซีของลิเบียระหว่างกองกำลังที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลและกลุ่มนักรบที่ภักดีต่อกลุ่ม ISIL มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย
เมืองเบงกาซีต้องเผชิญกับการสู้รบในลักษณะนี้มานานเกินกว่า 1 ปี เช่นเดียวกับในอีกหลายเมืองของประเทศนี้ซึ่งเกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล 2 ชุด ทั้งรัฐบาลชุดที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากนานาชาติ กับรัฐบาลชุดที่อ้างความชอบธรรมของตัวเองและเข้ากุมอำนาจในกรุงตริโปลีที่เป็นเมืองหลวง โดยที่รัฐบาลทั้งสองชุดต่างมีพันธมิตรที่หนุนหลังเป็นบรรดานักรบกลุ่มต่างๆ
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า การสู้รบระลอกล่าสุดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 รายในเมืองเบงกาซี หลังเหตุปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (10 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา ระหว่างกลุ่มติดอาวุธที่เรียกตัวเองว่ากองทัพแห่งชาติลิเบีย (LNA) ภายใต้การนำของนายพลคอลิฟะ ฮัฟตาร์ กับกลุ่มนักรบที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่ม ISIL โดยที่กองกำลังของฝ่ายนายพลฮัฟตาร์อ้างว่าสามารถบุกเข้ายึดที่ตั้งของระบบป้องกันภัยทางอากาศที่อยู่ระหว่างเขตมัชฮัชและเขตซิดี ฟาราจของเมืองเบงกาซีเอาไว้ได้
ทั้งนี้ ลิเบียถลำเข้าสู่ความวุ่นวายหลังเกิดความขัดแย้ง ระหว่างรัฐบาลชุดที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติและสมาชิกรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งฝ่ายหนึ่งกับอีกฝ่ายหนึ่ง คือ คณะผู้บริหารอีกชุด ซึ่งอ้างว่าตนเองมีความชอบธรรมและเข้ายึดกรุงตริโปลี โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับการหนุนหลังทั้งจากกองกำลังชนเผ่า หรือกลุ่มนักรบที่แตกออกเป็นฝักฝ่าย
หลังการเจรจานานหลายเดือน เบร์นาร์ดิโน เลออน ในฐานะทูตพิเศษด้านลิเบียของยูเอ็น ได้เสนอแผนร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อความเป็นเอกภาพระหว่างคู่ขัดแย้งฝ่ายต่างๆ ในลิเบีย แต่ทว่าข้อเสนอนี้ได้รับการคัดค้านจากพวกที่มีแนวคิดสุดโต่งในรัฐบาลทั้งสองชุดที่ไม่ยอมรับข้อตกลงในการแชร์อำนาจ ส่งผลให้กระบวนการสันติภาพในลิเบียต้องหยุดชะงัก แม้เลออนจะย้ำว่า กระบวนการปรึกษาหารือระหว่างคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไป
ความขัดแย้งที่กลายเป็นวิกฤตการเมืองที่ทำให้อดีตดินแดนที่มั่งคั่งไปด้วยทรัพยากรน้ำมันทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาแห่งนี้สุ่มเสี่ยงต่อการล่มสลาย มีต้นตอมาจากการที่ระบอบการปกครองที่เข้มแข็งของมูอัมมาร์ กัดดาฟีที่เป็นฝ่ายกุมอำนาจในลิเบียมายาวนาน ถูกโค่นอำนาจลงเมื่อปี 2011 โดยมีสหรัฐฯ และชาติตะวันตกหนุนหลัง และพยายามตั้งกลุ่มที่ตนเองไว้วางใจขึ้นเป็นผู้นำ แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มที่ไม่ได้อำนาจดังกล่าว
