โรเบิร์ต เบนต์ลี (Robert Bentley)ผู้ว่าการรัฐแอละบามา ออกแถลงการณ์ประกาศเมื่อคืนวันอาทิตย์(15 พฤศจิกายน) จะไม่ยอมให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สามารถเดินทางเข้ามายังรัฐแอละบามาของเขาได้ โดยได้ฉกฉวยเหตุรุนแรงที่ฝรั่งเศสมาเป็นข้ออ้าง
NBC News รายงานคำกล่าวของ โรเบิร์ต เบนต์ลี (Robert Bentley)ผู้ว่าการรัฐแอละบามาแถลงในช่วงดึกว่า “ผมจะไม่ขอสนับสนุนนโยบายรัฐบาลกลางสหรัฐฯที่จะทำให้ประชาชนชาวรัฐแอละบามาตกอยู่ในอันตรายเด็ดขาด”
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้ประกาศที่จะยอมรับผู้อพยพซีเรียจำนวนอย่างน้อย 10,000 คน ในปีงบประมาณถัดไป หลังจากที่ยุโรปประสบปัญหาถูกผู้อพยพไหลบ่าเข้าประเทศ
ซึ่ง 1 ใน 9 ของศูนย์รับขึ้นทะเบียนผู้อพยพซีเรียของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ นั้นเคลื่อนที่ และผู้ว่าการรัฐแอละบามาไม่ได้ประกาศอย่างชัดแจ้งถึงวิธีการหยุดรัฐบาลกลางสหรัฐฯไม่ให้ส่งผู้อพยพไม่ให้เข้าสู่รัฐแอละบามา
ทั้งนี้การออกแถลงการณ์ของเบนต์ลีเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเบน โร๊ดส์( Ben Rhodes) ผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาได้ออกมากล่าวผ่านรายการวิเคราะห์การเมือง Meet the Press ของสถานีทีวีเน็ตเวิร์กอเมริกา MSNBC ว่า เหตุการณ์โจมตีปารีสจะไม่กระทบต่อนโยบายการช่วยเหลือผู้อพยพซีเรียที่ลี้ภัยสงครามกลางเมืองเข้ามาพำนักในสหรัฐฯ
“ทางสหรัฐฯมีการคัดแยกผู้ลี้ภัยซีเรียที่ได้รับอนุญาตเข้ามาลี้ภัยในสหรัฐฯอย่างถี่ถ้วน” โร๊ดส์กล่าว และเสริมว่า “นอกจากนี้ในกระบวนการคัดแยก ยังเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในด้านข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ด้านต่อต้านการก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่มาตุภูมิสหรัฐฯ ดังนั้นสหรัฐฯจึงเชื่อมั่นในระบบที่จัดตั้งขึ้นในการนำคนเหล่านี้เข้าอเมริกา”
ด้าน ไมเคิล แม็คคัล (Michael McCaul)สส.รัฐเทกซัส สายพรรครีพับลิกัน ประธานคณะกรรมาธิการกระทรวงมาตุภูมิสหรัฐฯประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้สนับสนุนแนวคิดของเบนต์ลีผ่านรายการเมืองวันอาทิตย์(15)เช่นกันโดยให้ความเห็นว่า มีช่องโหว่มากมายในโครงการช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยสงครามกลางเมืองซีเรียของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ
“เราไม่ต้องการสนับสนุนนโยบายที่จะนำผู้ก่อการร้ายเข้าประเทศ” แม็คคัลแถลง แต่อย่างไรก็ตามเขาชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ควรมีมนุษยธรรมต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก
“เรากำลังเกี่ยวข้องกับคนที่ผ่านความโหดร้ายของสงครามกลางเมือง ที่มีทั้งเด็ก ผู้หญิง เด็กกำพร้า และแม่ม่าย ซึ่งทำให้เราไม่สามารถปิดประตูบ้านไม่ต้อนรับคนเหล่านี้”
และโร๊ดส์ ผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวยังให้ความเห็นในเชิงเห็นด้วยกับการที่จะต้องมีกระบวนการคัดกรองที่เข้มข้นว่า “สหรัฐฯสมควรที่จะมีแผนการที่จะค้นหาผู้ก่อการร้ายที่ทางอเมริกาต้องกันไม่ให้คนเหล่านี้สามารถเข้ามาถึงในตัวบ้านได้”
แต่อย่างไรก็ตาม โร๊ดส์ยืนยันว่า “เราควรต้องช่วยเหลือผู้ลี้ภัยซีเรียที่มีความจำเป็นต้องการได้รับความช่วยเหลือ”