“ปูติน”ประกาศพลิกแผ่นดินล่าผู้ลงมือวางระเบิดเครื่องบิน กร้าวใครก็ตามที่ให้ที่พักพิงแก่อาชญากรต้องรับผิดชอบ พร้อมสั่งเพิ่มกำลังถล่มในซีเรียหนักขึ้น หลังแถลงยืนยันในวันอังคาร (17 พฤศจิกายน) ว่าเครื่องบินโดยสารที่ตกเมื่อเดือนที่แล้วในคาบสมุทรไซนายพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือทั้งลำ 224 ชีวิต ถูกโจมตีด้วยระเบิด ด้านอียิปต์จับกุมพนักงานสนามบิน 2 คนที่สงสัยว่า พัวพันกับการลอบวางระเบิด
“การเข่นฆ่าประชาชนของเราในไซนายเป็นอาชญากรรมนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซียสมัยใหม่” ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แถลงวันอังคาร (17) และว่า รัสเซียจะพลิกแผ่นดินตามล่าผู้ก่อการร้ายที่ลอบวางระเบิดบนเครื่องบินพาณิชย์ของรัสเซียเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ว่าบุคคลเหล่านั้นจะซ่อนตัวอยู่ที่ใดในโลกเพื่อนำตัวมาลงโทษ
ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเมื่อคืนวันจันทร์ (16) ซึ่ง อเล็กซานเดอร์ บอร์ตนิคอฟ ผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคง เอฟเอสบี แจ้งปูตินว่า ทีมสอบสวนของรัสเซียพบร่องรอยของระเบิดที่ผลิตนอกประเทศบนชิ้นส่วนเครื่องบินและข้าวของส่วนตัวของผู้โดยสาร
“จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญของเรา ระเบิดแบบผลิตเองที่มีอานุภาพรุนแรงเท่ากับดินระเบิดทีเอ็นที 1 กิโลกรัม ได้ระเบิดขึ้นระหว่างเครื่องบินทำการบิน ส่งผลให้เครื่องบินแตกเป็นเสี่ยงกลางอากาศ ซึ่งอธิบายว่า เหตุใดชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบินจึงกระจัดกระจายออกเป็นอาณาบริเวณกว้างขวาง” บอร์ตนิคอฟสำทับว่า “เราสามารถฟันธงได้ว่า นี่เป็นการก่อการร้าย”
เพื่อตอบโต้การก่อการร้ายนี้ ปูตินสั่งการให้เพิ่มการโจมตีทางอากาศในซีเรียทันที
“ปฏิบัติการของเราในซีเรียไม่เพียงต้องดำเนินต่อไปเท่านั้น แต่ยังต้องเข้มข้นขึ้นเพื่อให้เหล่าอาชญากรเข้าใจว่า การล้างแค้นเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้” ปูตินประกาศ พร้อมสั่งให้กระทรวงกลาโหมและเสนาธิการทหารจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงปฏิบัติการในซีเรีย
ประมุขวังเครมลินยังสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อหุ้นส่วนทั้งหมดของมอสโกเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยกล่าวว่า รัสเซียหวังพึ่ง “มิตรประเทศ” ในการตามล่าและลงโทษผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบวางระเบิดเครื่องบิน
“เราจะดำเนินการตามมาตรา 51 ในกฎบัตรของสหประชาชาติที่ให้สิทธิ์ประเทศต่างๆ ในการป้องกันตัว ใครก็ตามที่ช่วยเหลืออาชญากรควรสำเหนียกว่า จะต้องรับผิดชอบในการให้ที่พักพิงกับอาชญากรเหล่านั้น”
ก่อนหน้านี้ กลุ่มที่ให้สัตยาบันต่อกลุ่ม ISIL ได้แถลงว่าเป็นผู้สอยเครื่องบินโดยสารของสายการบินรัสเซียลำนี้ ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 224 คนเสียชีวิต
ด้านทางการอียิปต์ยังคงไม่มีการยืนยันว่า เครื่องบินของรัสเซียตกเนื่องจากถูกลอบวางระเบิด โดยระบุว่า ต้องการรอจนกว่าการสอบสวนเสร็จสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันอังคาร(17) โดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง 2 คนของอียิปต์ว่า ทางการอียิปต์ได้ควบคุมตัวพนักงานสนามบินชาร์ม เอล-ชัยค์ 17 คน โดยมี 2 คนในจำนวนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยให้ความช่วยเหลือในการลอบวางระเบิดเครื่องบินของรัสเซีย