ดร.อิสมาอีลลุตฟี นำคณะผู้บริหารโครงการสันติธานี “มะดีนะตุสสลาม” แถลงข่าวระดมทุนเพื่อพัฒนาเมืองมะดีนะตุสสามโซนธุรกิจ ตั้งเป้าระดม 100 ล้านบาทในรูปแบบมุรอบะฮะห์ ร่วมสร้างเมืองแห่งสันติที่จะแบ่งพื้นที่ 3 ส่วนโดย 1 ส่วนเป็นโซนธุรกิจที่จะมีบ้านอยู่อาศัย ทาวน์เฮาส์ ศูนย์การค้า และอีก 2 ส่วนเป็นส่วนสำหรับวะกัฟเพื่ออัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลารวมทั้งส่วนของโรงพยาบาล การศึกษาที่จะเน้นในด้านวิทยาศาสตร์ และการแทพย์ รวมถึงมัสยิด ที่จะมีถึง 7 มัสยิดในพื้นที่รวมโครงการ 1,121 ไร่ติดถนนสายเอเชีย ถนนปัตตานี-ยะลา และถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ผ่านโครงการ
ผศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฎอนี และประธานมูลนิธิมะดีนะตุสสลาม กล่าวว่าโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่ทำขึ้น ต่อจากโครงการมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา บนพื้นที่ 100 กว่าไร่ จากนั้นขยายมหาวิทยาลัยมาตั้งที่สโร่งเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยฟาฎอนี บนพื้นที่ 300 กว่าไร่ และมะดีนะตุสสลาม ที่เราจะสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ เมืองแห่งสันติขึ้นมาในพื้นที่ภาคใต้ พื้นที่ที่มีข่าวเป็นปัญหามายาวนาน แต่ปัจจุบันความรู้สึกเหล่านี้ได้ลดลง หลังเกิดโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการขึ้นในพื้นที่ ทำให้หลายคนที่ได้เดินทางเข้ามาได้เห็นกับความสวยงามของพื้นที่
มะดีนะตุสสลาม มีความหมายของสันติ ที่เราต้องการสร้างเมืองแห่งสันติขึ้นมา เป็นเมืองที่เริ่มด้วยความรู้ที่เราพยายามดึงผู้มีความรู้ในด้านต่างๆ มาร่วมก่อสร้าง โดย 2 ใน 3 ของโครงการหลังจากสร้างเสร็จะเราจะวะกัฟเพื่ออัลลอฮฺตะอาลา หลังจากที่เราได้ทำมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา และมหาวิทยาลัยฟาฎอนี ที่ทั้งหมดเราได้วะกัฟหมดแล้ว
มะดีนะตุสสลามมาจากชื่อเมืองของท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลั๊ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม มาบวกกับปัตตานี ถ้าเราพูดแต่คำว่าสันติ แต่เราไม่ทำสันติภาพที่แท้จริงจะเกิดขึ้นอย่างไร ที่มหาวิทยาลัยเรามีวิชา “สันติศึกษา” เป็นวิชาบังคับของมหาวิทยาลัย ซึ่งนักศึกษาจะต้องทำโครงการเพื่อการเรียนรู้สู่การปฎิบัติ เมื่อตอนที่กลับมาประเทศไทยหลังจากเรียนจบ พบว่าเมืองไทยน่าอยู่ และเป็นตัวอย่างของโลกที่สำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
“เราอยากให้ลูกหลานของเราอยู่กับครอบครัว ที่มีการเดินทางสะดวก มีชีวิตที่สันติ ในเมืองที่มีบะรอกะ” ดร.อิสมาอีลลุตฟี กล่าว
ดร.อิสมาอีลลุตฟี กล่าวเชิญชวนพี่น้องร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสันติธานี “มะดีนะตุสสลาม” ได้ใน 2 ช่องทาง คือด้านการบริจาคเนื่องจากโครงการนี้มีส่วนสำหรับการบริจาคที่มากกว่าส่วนของธุรกิจ หรือการร่วมลงทุนในรูปแบบมุรอบะฮะห์
ด้านผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ประธานกรรมการบริษัทปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้รับผิดชอบในการบริหารโซนธุรกิจบนพื้นที่ 267 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการได้รับการสนับสนุนจากธนาคารอิสลาม เครื่อสหกรณ์ต่างๆ พี่น้องมุสลิม และผู้สนใจทั่วไปอย่างดี โดยในส่วนของบ้านเรากำลังก่อสร้าง 2 หมู่บ้านคือ หมู่บ้านที่ 1 และ 7 โดย 20 หน่วยแรกเราสร้างโดยการร่วมทุนกับทางมาเลเซีย 20 หน่วยที่ 2 ตอนนี้มีนักธุรกิจเยเมนให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุน โดยในส่วนที่เหลืออีก 96 หน่วยตรงนี้คือส่วนที่เราจะระดมทุนจากพี่น้อง โดยหน่วยลงทุนละ 5,000 บาท วงเงินลงทุน 100 ล้านบาท นอกจากชุมชนแวดล้อม สถาปัตยากรรมในแบบความเป็นมุสลิมแล้ว เรายังใส่ใจการออกแบบบ้านให้สะท้อนการอยู่อาศัยของมุสลิมอย่างแท้จริง คือบ้านต้องมีอย่างน้อย 3 ห้อง ประกอบด้วย ห้องของพ่อ-แม่ ห้องของลูกชาย และห้องของลูกสาว ด้วย
เราสร้างสิ่งนี้มาเพื่อเชิญชวนนักวิชาการปัตตานีจากทั่วโลกให้กลับมาที่นี่ ร่วมกันทำวิจัยในเมืองแห่งการศึกษาของเรา เพื่อร่วมกันสร้างปัตตานีดารุสสลามให้กลับอีกครั้ง ให้การเป็นดินแดนแห่งอุลามะอฺได้กลับมาสู่ดินแดนแห่งนี้อีกครั้ง
อ.ซอและห์ ตาเละ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฎอนีฝ่ายกิจการพิเศษ และการลงทุน กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คือความฝันตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้วเมื่อดร.อิสมาอีลลุตฟี ยังศึกษาอยู่ที่ประเทศอาหรับท่านฝันที่จะมีมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้เรามีแล้ว และวันนี้เราฝันที่จะมีเมืองแห่งการเรียนรู้ เมืองแห่งสันติ
ปัตตานีตั้งอยู่ศูนย์กลางของอาเซียน ที่ผ่านมามีปัญหาความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องสร้างความสงบให้กลับมาอีกครั้งในสันติธานี ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วนวะกัฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ที่พี่น้องสามารถร่วมบริจาคได้ตลอด และส่วนที่บริหารงานโดยบริษัทปัตตานียาจาโฮลดิ่งจำกัด ซึ่งจะแบ่งออกเป็น การสร้างเมืองแห่งการศึกษาที่จะเน้นในด้านวิทยาศาสตร์ การสร้างโรงพยาบาลที่จะช่วยในการผลิตบุคลากรทางแพทย์ โซนธุรกิจภายใต้การดูแลของบริษัทปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียลจำกัด ศูนย์กลางอิสลามที่จะเป็นสถาบันที่มีนักวิชาการจากทั่วโลกเข้ามาร่วมกัน โซนอยู่อาศัยที่จะมีหมู่บ้านทั้งสิ้น 7 หมู่บ้าน โดยแต่ละหมู่บ้านจะมีมัสยิดในหมู่บ้าน ซึ่งเราอยากให้ทุกคนมีโอกาสได้มีส่วนร่วม
คุณหะมะมุคตาร์ แลมัน กรรมการผู้จัดการบริษัทปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียลจำกัด กล่าวว่าส่วนตัวมีประสบการณ์ในการทำหมู่บ้านจัดสรรมากว่า 15 ปี โดยสำหรับโครงการนี้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เรามีการเดินหน้าโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงแรกๆ อาจมีปัญหาเรื่องที่ดินอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ปัญหาเหล่านี้เราได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยบ้านของเราๆ เราจะทำจนลูกค้าพอใจมีปัญหาส่วนใหญ่เรายินดีแก้ไข เป้าหมายของเราคือทำอย่างไรให้เราอยู่อย่างสันติ
อ.ประเสริฐ มัสซารี ประธานที่ปรึกษาบริษัทปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียลจำกัด กล่าวว่ากองทุนของเราจะมีการปันผลให้กับผูร่วมลงทุนทุก 6 เดือน และสำหรับผู้ลงทุน 2 ล้านบาทขึ้นไปเรายินดีให้ท่านได้ถือโฉนดที่ดินไว้เพื่อเป็นหลักประกันการลงทุนด้วย
โดยผู้สนใจร่วมลงทุนสามารถติดต่อได้ที่โครงการมะดีนะตุสสลาม หรือสอบถามที่ 081-613-8244 อ.ประเสริฐ มัสซารี 081-970-8993 คุณหะมะมุกตาร์ แลมัน