“ทรัมป์” จี้สหรัฐฯ งัดเทคนิคสุดเถื่อน “กรอกน้ำ” ทรมานผู้คน กลับมาใช้ใหม่

โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีนักลงทุนและดาราเรียลลิตีโชว์ซึ่งเป็นผู้สมัครตัวเก็งในศึกชิงตัวแทนพรรครีพับลิกัน เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ นำเทคนิคการสอบสวนสุดป่าเถื่อนด้วยวิธี “กรอกน้ำให้สำลักเหมือนถูกกดน้ำจนตาย” (waterboarding) กลับมาใช้ใหม่ อ้างการทรมานแค่นี้เป็นเรื่อง “ขี้ปะติ๋ว” เมื่อเทียบกับ ISIL

นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่มหาเศรษฐีปากเสียออกมาเสนอแนวคิดสุดเถื่อน หลังเกิดเหตุวินาศกรรมปารีส แม้จะเป็นข้อเสนอที่ป่าเถื่อนแต่กลับทำให้คะแนนนิยมของ ทรัมป์ ตีตื้นขึ้นมา

ผลสำรวจล่าสุดจากวอชิงตันโพสต์/เอบีซีนิวส์ พบว่า ทรัมป์ พลิกกลับมาเป็นเต็งหนึ่งของสายรีพับลิกัน ด้วยคะแนนนิยมร้อยละ 32 แซงหน้าคู่แข่งอย่างศัลยแพทย์ เบน คาร์สัน ผู้มีแนวคิดต่อต้านศาสนาอิสลามเช่นกัน อยู่ประมาณ 10 แต้ม

หลังจุดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ด้วยการเสนอให้ “ขึ้นทะเบียน” ชาวมุสลิมทั่วสหรัฐฯ เมื่อไม่กี่วันก่อน ล่าสุดมหาเศรษฐีปากเสียวัย 69 ปีก็ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอบีซีว่า ตนสนับสนุนให้รัฐบาลสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายด้วยวิธี “กรอกน้ำให้สำลักเหมือนถูกกดน้ำจนตาย” (waterboarding)

“ถ้าเป็นผม ผมจะนำวิธีนี้กลับมาใช้ใหม่ ผมว่าการกรอกน้ำให้สำลักเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกไอเอสคิดจะทำกับเรา สิ่งที่พวกเขากำลังทำกับเรา และสิ่งที่พวกเขาได้ทำไปแล้วตอนที่ใช้มีดตัดศีรษะ เจมส์ โฟลีย์”

“มันเป็นความโหดร้ายคนละระดับกันเลย และผมก็จะเอาวิธีสอบสวนที่รุนแรงเด็ดขาดกลับมาใช้ใหม่แน่นอน”

“กรอกน้ำให้สำลักเหมือนถูกกดน้ำจนตาย” (waterboarding) ซึ่งเป็นวิธีไต่สวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายที่สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เคยนำมาใช้หลังเกิดเหตุวินาศกรรม 9/11 ถูกนานาชาติประณามว่าเป็นการทารุณกรรม เพราะทำให้ผู้ต้องหารู้สึกทรมานไม่ต่างจากคนที่กำลังจะจมน้ำตาย

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้สั่งห้ามใช้เทคนิคสอบสวนเช่นนี้ หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในปี 2009

หลังถูกสังคมติเตียนและถูกผู้สมัครคู่แข่งโจมตีอย่างหนักที่เสนอให้มีการติดตามความเคลื่อนไหวชาวมุสลิมและสั่งปิดมัสยิด ล่าสุด ทรัมป์ ได้ออกพลิกลิ้นอ้าง “ผมไม่ได้ต้องการให้ปิดมัสยิด แค่ขอให้จับตากิจกรรมภายในนั้นเท่านั้นเอง”

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยังคงยืนยันให้จัดทำฐานข้อมูลประชากรมุสลิม โดยเสริมว่าควรจะมีการขึ้นทะเบียนผู้ลี้ภัยซีเรียที่เดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ ด้วย เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีที่อาจแฝงตัวมากับ “ม้าไม้” เหมือนในมหากาพย์อีเลียดเรื่องสงครามกรุงทรอย สงครามที่พวกคูเสดชาวคริสต์ใช้วิธีสกปรกในการลอบโจมตีในดินแดนมุสลิม

โดยบรรดาว่าที่ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาต่างฉกฉวยโอกาสจากเหตุวินาศกรรมในกรุงปารีสมาเป็นประเด็นในการหาเสียงโกยคะแนนนิยมให้ตัวเองมากขึ้น

ความคิดเห็น

comments