มารดาสาววัยรุ่นอายุ 15 ปีชาวอังกฤษ กล่าวโทษโรงเรียนที่ละเลยต่อการปกป้องเด็กนักเรียนจากโรคแพ้สัญญาณไว-ไฟ จนกระทั่งเด็กน้อยทนทรมานไม่ไหว ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อจบปัญหาสุขภาพที่โรงเรียนไม่เข้าใจ หวังให้เหตุสลดใจนี้เป็นอุทาหรณ์ให้สังคมเข้าใจผู้ป่วยโรคแพ้สัญญาณไว-ไฟ และมีมาตรการเพื่อปกป้องผู้ป่วยมากขึ้น
เดบรา ฟราย (Debra Fry) มารดาของ เจนนี่ ฟราย (Jenny Fry) สาว 15 ปีที่ถูกพบร่างในพื้นที่ใกล้บ้านเมืองแชดลิงตัน ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุว่า บุตรสาวเสียชีวิตเพราะโรคแพ้สัญญาณไว-ไฟ โดยสาเหตุที่สรุปเช่นนี้ คือ เจนนี่ได้ส่งข้อความถึงเพื่อน บอกว่าเธอจะไม่ไปโรงเรียน และจะจบชีวิตเพื่อยุติความทรมานจากโรคแพ้สัญญาณไฟฟ้า หรืออีเอชเอส (EHS) ซึ่งย่อมาจาก electro-hypersensitivity
เดบรา ระบุว่า เจนนี่ได้รับความทรมานจากอาการเหนื่อยง่าย ปวดศีรษะ และปัญหาที่กระเพาะปัสสาวะเมื่ออยู่ในบริเวณที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายที่โรงเรียน Chipping Norton School ตามคำให้การต่อศาล มารดาของเจนนี่ ระบุว่า บุตรสาวเริ่มแสดงอาการ EHS ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 ที่ผ่านมา โดยสังเกตว่าอาการอ่อนแรงจะเกิดขึ้นทันทีที่เข้าใกล้จุดกระจายสัญญาณไร้สาย
ไม่เพียงบุตรสาว เดบรา ระบุว่า เธอมีอาการไม่ปกติ เมื่ออยู่ในบริเวณจุดกระจายสัญญาณไว-ไฟเช่นกัน เธอจึงค้นหาข้อมูล และตัดสินใจนำเครื่องกระจายสัญญาณออกไปจากบ้าน ทำให้เธอ และบุตรสาวไม่ได้รับปัญหาใดระหว่างอาศัยในบ้าน
ปัญหาเกิดขึ้นที่โรงเรียน เดบรา ระบุว่า เจนนี่ถูกลงโทษบ่อยครั้งเพราะการเลี่ยงไม่เข้าห้องเรียน หรือพยายามเดินออกนอกพื้นที่เพื่อให้สามารถทำการบ้านได้ตามปกติ จุดนี้ เดบรา ระบุว่า ได้พยายามนำข้อมูลไปแสดงต่อโรงเรียน แต่กลับไม่เป็นผล และทางโรงเรียนระบุว่าสัญญาณไว-ไฟนั้นปลอดภัย
ข่าวการเสียชีวิตของวัยรุ่น 15 ปีรายนี้ทำให้โลกหันมาให้ความสนใจโรค EHS ซึ่งองค์การอนามัยโลก หรือ World Health Organisation เคยออกแถลงการณ์เกี่ยวกับโรค EHS ตั้งแต่ปี 2005 ข้อมูลที่ WHO ระบุไว้คือโรค EHS นั้นสามารถแสดงออกผ่านอาการหลากหลาย ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีความรุนแรงของอาการต่างกันไป สาเหตุของโรค EHS ยังไม่มีเกณฑ์วินิจฉัยที่ชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับการแพ้สัมผัสเหมือนผู้แพ้ฝุ่นละออง หรือเกษรดอกไม้
ก่อนหน้ากรณีภูมิแพ้ไว-ไฟ ในต่างประเทศมีรายงานว่า พบผู้ป่วยจากคลื่นวิทยุครั้งแรกในปี 1932 ผู้ป่วยบางรายพบว่ามีอาการตาพร่า ปวดศรีษะ และมีผื่นคัน ล่าสุด คือ เดือนกันยายนที่ผ่านมา ศาลประเทศฝรั่งเศสมีคำตัดสินให้หญิงวัย 39 ปีได้รับเงินชดเชย 500 ปอนด์ต่อเดือน เพราะมีอาการแพ้คลื่นความถี่วิทยุสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย จนต้องย้ายไปอาศัยอยู่ในเขตชนบทที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้งาน