อียิปต์ระบุในวันจันทร์ (14 ธันวาคม) ว่า จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่พบหลักฐานการก่อการร้ายหรือการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการตกของเครื่องบินโดยสารรัสเซียในคาบสมุทรไซนายที่คร่าชีวิตคนบนเครื่องไป 224 คนเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม หลังรัสเซียยกเหตุดังกล่าวอ้างความชอบธรรมในการทิ้งระเบิกโจมตีเป้าหมายในซีเรียอย่างรุนแรงต่อเนื่อง
รัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลตะวันตกอ้างว่า เครื่องบินแอร์บัส A321 ของสายการบินเมโทรเจ็ทน่าจะตกเพราะถูกวางระเบิด โดยมีกลุ่ม ISIL ระบุตอนแรกว่าเป็นผู้ยิงเครื่องบินลำดังกล่าวตก แต่เมื่อนักวิเคราะห์ส่วนมากระบุว่าเป็นไปไม่ได้ที่เครื่องบินซึ่งบินด้วยความสูงหลายกิโลเมตรจะถูกยิงตกด้วยอาวุธธรรมดา กลุ่ม ISIL จึงออกแถลงการณ์ใหม่ระบุว่าเป็นการวางระเบิดโดยซุกซ่อนไปกับกระป๋องน้ำอัดก๊าซ ส่งผลให้รัสเซียใช้เหตุดังกล่าวเป็นข้ออ้างในการโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในซีเรียอย่างหนักหน่วงต่อเนื่อง ด้วยข้ออ้างโจมตี ISIL
แต่ล่าสุดกระทรวงการบินพลเรือนของอียิปต์ระบุว่า พวกเขาได้ทำรายงานสืบสวนขั้นต้นเกี่ยวกับการตกดังกล่าวสำเร็จแล้ว และระบุว่า จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่พบหลักฐานการก่ออาชญากรรม
“จนถึงตอนนี้คณะกรรมการสืบสวนเฉพาะกิจยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่ามีการแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายหรือการก่อการร้ายใดๆ” กระทรวงฯ ระบุในถ้อยแถลง
การตกของเครื่องบินลำดังกล่าวกระทบกระเทือนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอียิปต์อันเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ เครื่องบินลำนี้ขึ้นบินจากเมืองชาร์มอัล-ชีค เมืองตากอากาศริมทะแดงที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและชาวอังกฤษ โดยหลังเกิดเหตุทางการอิยิปต์ได้มีการนำตัวเจ้าหน้าที่สนามบินจำนวนมากไปสอบสวน แต่ไม่พบความผิดปกติ
ทั้งนี้ก่อนรัสเซียจะหยิบประเด็นดังกล่าวมาเป็นข้ออ้างในการโจมตีซีเรียหนักขึ้น ได้มีการสรุปข้อสันนิฐานของรัสเซียเองที่ระบุว่า เครื่องบินตกอาจเกิดจากปัญหาของระบบเชื้อเพลิงที่มีการเติมให้กับเครื่องบินลำดังกล่าวที่สนามบินในรัสเซีย ก่อนเดินทางมารับผู้โดยสารที่อิยิปต์
