ทางการอิหร่านสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในกรุงเตหะราน ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศเป็นเวลา 2 วัน หลังจากค่ามลพิษทางอากาศพุ่งสูงขึ้นถึง 7 เท่าตัวจากระดับปกติและส่งผลให้ทั่วทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันพิษ
มูฮัมหมัด ฮาดี เฮย์ดาร์ซาเดห์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลอิหร่าน ออกมาเปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐในวันเสาร์ ( 19 ธันวาคม) โดยระบุค่ามลพิษทางอากาศในกรุงเตหะรานเวลานี้ พุ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานมากกว่า 7 เท่าตัว และอยู่ในระดับเลวร้ายย่ำแย่ที่สุดในรอบอย่างน้อย 9 เดือน โดยต้นตอสำคัญของมลพิษทางอากาศที่สร้างกลุ่มหมอกควันพิษปกคลุมทั่วเมืองหลวงของอิหร่านในเวลานี้ ส่วนใหญ่เกิดจากควันพิษจากไอเสียรถยนต์ที่มีสัดส่วนคิดเป็นกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของมลพิษทางอากาศทั้งหมดในกรุงเตหะราน
เฮย์ดาร์ซาเดห์เผยว่า โรงเรียนทุกแห่งในกรุงเตหะราน จะปิดการเรียนการสอนทั้งหมดในวันอาทิตย์ (20) เช่นเดียวกับที่เมืองชาห์ร-เรย์ และเมืองชาห์ร ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเตหะราน โดยมาตรการปิดโรงเรียนนี้อาจขยายออกไปจนถึงวันจันทร์ (21) หากสถานการณ์หมอกควันยังไม่ดีขึ้น
ด้านสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการ รายงานว่า โรงเรียนหลายแห่งในเขตจังหวัดอัลบอร์ซที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงเตหะรานต้องปิดทำการด้วยเช่นกันจากปัญหามลพิษทางอากาศครั้งเลวร้ายนี้ที่ค่ามลพิษทางอากาศเฉลี่ยพุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 162 ในกรุงเตหะราน ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจของประชาชน
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลอิหร่านได้ขอความร่วมมือไปยังบรรดาผู้ประกอบการภาคเอกชน ให้ยอมอนุญาตให้ลูกจ้างที่เป็นผู้หญิงสามารถเลิกงานและกลับบ้านได้ก่อนกำหนดเพื่อไปดูแลเด็กๆในครอบครัว
ทั้งนี้ กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่านมีสภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปคล้ายกับแอ่งกระทะ ที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ซึ่งกลายเป็นป้อมปราการสกัดควันพิษโดยเฉพาะจากไอเสียรถยนต์ที่มีจำนวนกว่า 5 ล้านคัน มิให้ลอยออกจากตัวเมือง
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2012 ปัญหามลภาวะโดยเฉพาะทางอากาศ ได้คร่าชีวิตประชาชนไปมากกว่า 4,500 รายในกรุงเตหะราน และราว 80,000 รายทั่วประเทศ ทั้งนี้ เป็นข้อมูลที่รวบรวมโดยกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน