ตำรวจจีนบุกค้นสำนักงานบริษัทผู้ดำเนินการสถานที่กำจัดขยะ ซึ่งเป็นต้นตอทำให้เกิดเหตุดินถล่มใส่นิคมอุตสาหกรรมในเมืองเซินเจิ้น ทับถมอาคารไป 33 หลัง และเวลานี้เพิ่งพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 76 คน ทั้งนี้ข้อมูลของรัฐบาลชี้ว่า บริษัทแห่งนี้ขาดคุณสมบัติในการประกอบกิจการด้านนี้
ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจเข้าค้นสำนักงาน 2 แห่งของเซินเจิ้น อี้เซียงหลง อินเวสต์เมนต์ ดิเวลอปเมนต์ เมื่อวันอังคาร (22 ธ.ค.) ทว่าไม่เห็นพนักงานในสำนักงานทั้งสองแห่งแต่อย่างใด
จากข้อมูลของทางการจีนระบุว่า เซินเจิ้น หลูเว่ย พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการสถานที่กำจัดขยะภายในนิคมอุตสาหกรรมเหิงไถอี้ว์ เขตก่วงหมิงใหม่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครเซินเจิ้น ตั้งแต่ปี 2013 โดยสถานที่กำจัดขยะดังกล่าวมีการเก็บรวมกองดินและขยะจากการก่อสร้างเอาไว้จนสูงล้นอย่างน่ากลัวอันตราย แล้วพอฝนตกลงมากองดินก็กลายเป็นโคลน ครั้นแล้วเมื่อวันอาทิตย์ (20) ก็เกิดเหตุกองดินโคลนมหึมานี้ถล่มลงมา จนถมทับอาคารรวม 33 หลัง
ทว่า เจ้าหน้าที่ของบริษัทเผยว่า ได้ขายสิทธิ์ดังกล่าวให้แก่ เซินเจิ้น อี้เซียงหลง อินเวสต์เมนต์ ดิเวลอปเมนต์ ในราคา 115,766 ดอลลาร์ ตั้งแต่ก่อนชนะประมูลด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม คำอธิบายประเภทธุรกิจที่ดำเนินการ ในเอกสารจดทะเบียนของอี้เซียงหลงนั้น ไม่ได้มีการระบุว่า บริษัทประกอบการในการจัดการด้านลอจิสติกส์ด้วย ซึ่งเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการเข้าประมูลเพื่อบริหารจัดการสถานที่กำจัดขยะ
ขณะที่เอกสารสัญญาระหว่างหลูเว่ย กับ อี้เซียงหลงระบุว่า อี้เซียงหลงจะเป็นผู้รับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ดี คู่กรณีทั้งหมด รวมถึงตำรวจและทางการเซินเจิ้นต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ ทางการเซินเจิ้นก็ได้เคยออกคำเตือนว่า สถานที่เก็บขยะที่เกิดเหตุดินถล่มนั้นไม่ปลอดภัย ซึ่งหมายถึงควรปิดชั่วคราว โดยเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา สำนักงานบริหารจัดการเหิงไถอี้ว์ เขตก่วงหมิงใหม่ ได้แจ้งผ่านเว็บไซต์ขอให้บริษัทที่ดำเนินการสถานที่กำจัดขยะ ระบุตัวผู้ที่รับผิดชอบในการออกแบบสถานที่นั้น
ต่อมาในเดือนกันยายน สำนักงานบริหารจัดการเหิงไถอี้ว์ระบุว่า สถานที่เก็บขยะแห่งนั้นไม่สามารถรองรับขยะได้อีก และควรมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปประจำเพื่อไม่ให้ผู้ใดแอบนำดินโคลนไปทิ้งเพิ่มอีก
ทว่า ชาวบ้านแถวนั้นเผยว่า ทุกวันยังคงมีรถบรรทุกนับร้อยคันขนดินโคลนไปทิ้งในบริเวณดังกล่าวเช่นเดิม
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (22) หน่วยกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นรายแรก ที่ใต้ซากปรักหักพัง ทำให้ความหวังในการพบผู้รอดชีวิตริบหรี่ลงเรื่อยๆ
กระนั้น เจ้าหน้าที่ก็พยายามใช้ทั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ โดรน และเครื่องเจาะ เพื่อค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตใต้กองโคลนที่บางจุดทับถมลึกถึง 10 เมตร โดยสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดนั้นครอบคลุมพื้นที่ถึง 380,000 ตารางเมตร
รายงานที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมจีนระบุว่า ตำรวจและทหาร “ทำงานแข่งกับเวลา” และตัวเลขผู้สูญหายอย่างเป็นทางการในวันอังคารอยู่ที่ 76 คน
เหตุดินถล่มครั้งนี้ที่เกิดจากการบริหารจัดการสถานที่กำจัดขยะอย่างไม่เหมาะสมนั้น ถือเป็นหายนะภัยครั้งใหญ่จากฝีมือมนุษย์ครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในจีนในรอบ 4 เดือน ครั้งก่อนหน้านี้คือเหตุระเบิดจากโกดังเก็บสารเคมีในเมืองเทียนจินเมื่อเดือนสิงหาคม ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 160 ราย
ผู้เห็นเหตุการณ์ดินถล่มเมื่อเช้าวันอาทิตย์เล่าว่า คลื่นดินและโคลนสีแดงลูกมหึมาโถมเข้าใส่นิคมอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว และฝังหรือทำลายโรงงานและบ้านเรือนในบริเวณนั้น
พร้อมๆ กับที่มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมของจีนและการละเลยการกำกับดูแล นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ก็ได้สั่งการให้สอบสวนหาสาเหตุ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น