วาติกันรับรอง “รัฐปาเลสไตน์” อย่างเต็มรูปแบบ

วาติกันออกแถลงการณ์ในวันเสาร์ (2 มกราคม) ที่ผ่านมาว่า สนธิสัญญาระหว่างวาติกันและปาเลสไตน์ในการตกลงยอมรับ “ปาเลสไตน์ในฐานะรัฐ” ซึ่งได้มีการลงนามในเดือนมิถุนายน 2015 ได้เริ่มต้นบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ในนโยบายการสนับสนุนแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล โดยใช้วิธีแก้ปัญหาแบบสองรัฐที่อยู่คู่กันเข้าช่วย

RT ของรัสเซีย รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (3 มกราคม) ว่า วาติกันได้ออกแถลงการณ์ในวันเสาร์ (2 มกราคม) ที่ผ่านมาว่า ได้มีการเริ่มต้นการบังคับใช้ข้อตกลงในการลงนามสนธิสัญญาระดับทวิภาคีของวาติกันและปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการแล้ว

โดยการยอมรับปาเลสไตน์ในฐานะ “รัฐที่เท่าเทียม” นี้ เป็นการสนับสนุนการประกาศยอมรับขององค์การสหประชาชาติปี 2012 ที่ให้สถานะปาเลสไตน์ในฐานะรัฐในยูเอ็นให้เป็น “รัฐผู้สังเกตการณ์ที่ไม่มีฐานะสมาชิกภาพ” และยังเป็นนโยบายทางการเมืองของวาติกันในความพยายามที่จะสลายความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลด้วยธีแก้ปัญหาแบบสองรัฐที่อยู่เคียงคู่กันเข้าช่วย

“วาติกันและรัฐวาติกันได้แจ้งต่อกันว่า ข้อตกลงตามสนธิสัญญาระหว่ารัฐที่ได้ลงนามไว้ก่อนหน้านี้ ได้ถูกบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้วภายใต้สนธิสัญญาภายใต้ข้อ Article 30” รายงานจากแถลงการณ์ของวาติกันที่ออกมาในวันเสาร์ (2)

ทั้งนี้ ในสนธิสัญญญาครั้งประวัติศาสตร์ปี 2015 จะช่วยทำให้วาติกันสามารถทำงานได้ง่ายเข้าในฐานะเป็นตัวกลางการเจรจาในความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล รวมไปถึงทำให้ปาเลสไตน์สามารถผงาดในฐานะรัฐเอกราชในประชาคมโลก และจะยังช่วยให้วาติกันสามารถปกป้องสถานที่ศักดิสิทธิ์ทั้ง 3 แห่งของกลุ่มศาสนาเซไมท์ (semitic religion) ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของศาสนาคริสต์ที่ตั้งอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ได้อีกด้วย

โดยก่อนหน้านี้ในปี 2014 โบสถ์คาทอลิกที่ตั้งไม่ห่างจากเมืองเยรูซาเลม ตกเหยื่อโดนชาวอิสราเอลเข้าบุกทำลายให้ได้รับความเสียหาย เพื่อตอบโต้การเปิดเจรจาสันติภาพกับปาเลสไตน์ และการพ่นข้อความและรูปภาพบนผนังหมิ่นพระเยซู และพระแม่มารี ถือเป็นสิ่งที่พบเห็นโดยปกติเมื่อไม่นานมานี้

ความคิดเห็น

comments