ยอดตายจากอาวุธปืนใน 21 รัฐของสหรัฐฯ พุ่งแซงหน้าเหยื่ออุบัติเหตุ

เปิดผลศึกษาพบจำนวนผู้เสียชีวิตจาก “อาวุธปืน” มีจำนวนแซงหน้าผู้เสียชีวิตจาก “อุบัติเหตุทางท้องถนน” ใน 21 มลรัฐของสหรัฐอเมริกาแล้วในเวลานี้ ชี้ แนวโน้มผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เรียกร้องรัฐบาลหันมาเอาจริงเอาจริงในการควบคุมอาวุธปืน

ผลการศึกษาล่าสุดโดยศูนย์วิจัยด้านความรุนแรง “Violence Policy Center” ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรด้านวิชาการที่รณรงค์ความปลอดภัยในการใช้อาวุธปืนในสหรัฐฯ ระบุ ในปี 2014 ซึ่งเป็นปีล่าสุดที่มีการประมวลผลข้อมูลเสร็จสิ้น ปรากฏว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจาก “อาวุธปืน” มีจำนวนแซงหน้าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ใน 21 มลรัฐของสหรัฐอเมริกาแล้ว

โดยทั้ง 21 มลรัฐดังกล่าวประกอบด้วยอะแลสกา แอริโซนา โคโลราโด จอร์เจีย ไอดาโฮ อิลลินอยส์ อินเดียนา ลุยเซียนา แมริแลนด์ วอชิงตัน เวอร์จิเนีย เวอร์มอนต์ ยูทาห์ เทนเนสซี เพนน์ซิลเวเนีย โอเรกอน โอไฮโอ นิวแฮมป์เชียร์ เนวาดา มิสซูรี มิชิแกน รวมถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ อย่างไรก็ดี แต่ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขของผู้เสียชีวิตประกอบรายงานดังกล่าว

ด้าน คริสเทน แรนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายของศูนย์ Violence Policy Center ระบุว่า จนถึงเวลานี้ อาวุธปืนยังคงเป็นสินค้าเพียงอย่างเดียวในสหรัฐฯที่รัฐบาลอเมริกันไม่มีกฎหมายที่ใช้ควบคุมอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้บริโภค ทั้งที่มีครอบครัวชาวอเมริกันถึง 1 ใน 3 ที่มีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองอย่างน้อย 1 กระบอก

รายงานข่าวระบุว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทางศูนย์ VPC ทำการสำรวจในเรื่องนี้ พบว่า ในปีดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืน สูงกว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุใน 10 มลรัฐเท่านั้น ก่อนที่จำนวนจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปีล่าสุดที่มีการเก็บข้อมูล

ความคิดเห็น

comments