เมื่อพฤหัสบดี (21 มกราคม) อิสราเอลออกมายืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าเข้ายึดแผ่นดินในเขตเวสต์แบงก์ในส่วนพื้นที่ติดพรมแดนจอร์แดน คิดเป็นพื้นที่รวม 380 เอเคอร์ในบริเวณจอร์แดน แวลเลย์ อิสราเอลรื้อถอนตึกอาคารจำนวน 6 หลังในโซน E1 เขตเวสต์แบงก์ที่ได้รับการจัดสร้างจากหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของสหภาพยุโรป
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (21 มกราคม)ว่า COGAT หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงกลาโหมอิสราเอลออกมายืนยันกับรอยเตอร์ผ่านอีเมลว่า มีการตัดสินใจให้อิสราเอลเข้ายืดพื้นที่ในเขตเวสต์แบงก์ ในส่วนพื้นที่ติดพรมแดนจอร์แดน คิดเป็นพื้นที่รวม 380 เอเคอร์ในบริเวณจอร์แดน แวลเลย์ ซึ่งเป็นดินแดนในส่วนเฟสสุดท้ายของการประกาศให้เป็นดินแดนปาเลสไตน์แห่งนี้ตกเป็นของรัฐอิสราเอล
และยังพบว่าแผ่นดินที่อิสราเอลประกาศเดินหน้ายึดนี้ ติดกับเจริโช (Jericho) ในเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นเขตที่มีชาวยิวจำนวนมากบุกรุกเข้าไปตั้งถิ่นฐานและทำการเกษตร ซึ่งเป็นดินแดนที่ประชาชนชาวปาเลสไตน์อาศัยและต้องการให้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์
โดยรอยเตอร์ชี้ว่า แผ่นดินในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลประกาศจะเดินหน้ายึดนั้นถือเป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเข้ายึดในเดือนสิงหาคม 2014 เป็นต้นมา
ด้านเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ บัน คีมูน ทำเพียงกล่าวประณามการตัดสินใจของอิสราเอลในครั้งนี้ และในส่วนปาเลสไตน์ ได้ประกาศจะใช้ช่องทางยื่นเรื่องฟ้องต่อสหประชาชาติเพื่อให้ยุติการเดินหน้าลุกคืบยึดแผ่นดินของอิสราเอล
โดยบันกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “กลุ่มเคลื่อนไหวชาวอาณานิคมใหม่ได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นปฎิปักษ์ต่อนโยบายการแก้ปัญหา 2 นคราตามที่รัฐบาลอิสราเอลได้ให้คำมั่นต่อประชาคมโลก”
รอยเตอร์รายงานว่า ทหารอิสราเอลได้เข้ารื้อถอนอาคาร 6 หลังในโซน E1 ในเวสต์แบงก์ ซึ่งอาคารทั้งหมดนี้ถูกก่อสร้างจากเงินทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของสหภาพยุโรป โดยอาคารทั้งหมดนี้ได้ใช้เป็นที่อาศัยของชนเผ่าทะเลทรายเร่ร่อนเบดูอิน
โดยรอยเตอร์ชี้ว่า โซน E1 ถือเป็นโซนที่อ่อนไหวระหว่างเมืองเยรูซาเลม และเขตเดดซี