ประธานาธิบดี เบนิกโน อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ มีคำสั่งให้ใช้ความพยายามเป็นพิเศษในการทำให้แน่ใจว่าข้อตกลงที่ทำกับกลุ่มโมโรจะถูกบังคับใช้แม้ว่าจะสิ้นวาระการดำรงตำแหน่งของเขาไปแล้วก็ตาม
เหล่าสมาชิกรัฐสภารายสำคัญ ๆ ที่ขัดขวางแนวทางสันติภาพระบุว่า พวกเขาคงจะไม่ผ่านกฎหมายสันติภาพก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งของอากีโนสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน
อากีโน สั่งให้มีการ “ปรึกษาหารือและพบปะกับผู้มีผลประโยชน์ร่วมตลอดจนให้มีการดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้เราสามารถสานต่อกระบวนการสันติภาพได้” เฮอร์มินิโอ โคโลมา โฆษกของประธานาธิบดีเผย
อากีโนมีความคาดหวังที่จะผ่านกฎหมายฉบับนี้ เพื่อเป็นการรับรองข้อตกลงสันติภาพที่ทำกับกลุ่มแนวหน้าปลดแอกอิสลามโมโร (MILF)
แต่เสียงคัดค้านจากสมาชิกสภานิติบัญญัติบางคนได้ทำให้การผ่านกฎหมายนี้ล่าช้าออกไปทั้ง ๆ ที่มีการล็อบบี้แล้ว
เทเรสซิตา เดเลส หัวหน้าทีมเจรจาสันติภาพของอากีโน บอกกับเขาว่า หน้าที่ของเธอจะเป็นการพบปะกับฝ่ายต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะกลุ่ม MILF เพื่อยืนยันกลไกและการเปลี่ยนผ่านเมื่อข้อตกลงสันติภาพถูกบังคับใช้ โคโลมา กล่าว
“เราต้องทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการบังคับใช้ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์นี้อย่างเต็มที่หลังสิ้นรัฐบาลนี้แล้ว” เขากล่าวโดยอ้างจากคำพูดของเดเลส
ร่างกฎหมายนี้มีจุดประสงค์เพื่อยุติการก่อกบฏแบ่งแยกดินแดนของชาวมุสลิมในเกาะหลักมินดาเนาทางตอนใต้ที่คร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 100,000 คน นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970
กฎหมายนี้จะให้พื้นที่ปกครองตนเองและกฎหมายในการปกครองตนเองแก่ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศที่เคยเป็นประเทศมุสลิมก่อนถูกยึดครองโดยสเปนและเปลี่ยนประเทศแห่งนี้ให้ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ในปัจจุบัน
อากีโนต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านในปีนี้ แต่กำหนดการกลับถูกทำให้สะดุดภายหลังกระแสความโกรธเกรี้ยวของสาธารณชนในเรื่องการเสียชีวิตของตำรวจคอมมานโด 44 นายในการเผชิญหน้ากองโจรแบ่งแยกดินแดนชาวมุสลิมเมื่อปีที่แล้ว