สมาชิกสภานิติบัญญัติหลายร้อยคนจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ของอองซานซูจี เข้าสาบานตนเข้าสู่รัฐสภาพม่า ในวันจันทร์ (1 กุมภาพันธ์) ด้วยจำนวนที่นั่งที่เพียงพอที่จะเลือกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยครั้งแรกของประเทศ นับตั้งแต่กองทัพครองอำนาจในปี 2505
พรรค NLD ชนะร้อยละ 80 ของที่นั่งที่ได้รับการเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เดือน พฤศจิกายน 2558 ที่ทำให้พรรคของพลเรือนครองอำนาจในฐานะพรรครัฐบาลของประเทศ หลังต่อสู้มานานหลายทศวรรษที่ทำให้เห็นสมาชิกพรรคจำนวนมากถูกจำคุก
แต่รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเผด็จการทหารร่างขึ้นทำให้พรรคจะต้องร่วมแบ่งอำนาจกับกองทัพที่กดขี่ประชาชนมายาวนานหลายสิบปี
การประชุมสภาเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนของการถ่ายโอนอำนาจ ที่เริ่มต้นด้วยการเลือกตั้ง และจะดำเนินไปจนกระทั่งรัฐบาล NLD เริ่มต้นทำหน้าที่อย่างเป็นทางในเดือน เมษายน
“นี่เป็นรัฐสภาชุดแรกของประเทศในรอบหลายปีที่ถูกเลือกขึ้นมาโดยประชาชน เรามีเสียงข้างมาก เรามีหน้าที่เติมเต็มนโยบายที่ได้แถลงไปของเรา และเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศนี้” พะยอน จอ สมาชิกสภานิติบัญญัติที่เคยถูกจำคุกนาน 20 ปี ในฐานะสมาชิกกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร กล่าว
สมาชิกใหม่ส่วนหนึ่งดูสับสนเมื่อพวกเขาเดินผ่านอาคารรัฐสภาที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ในเมืองหลวงที่สร้างขึ้นในสมัยรัฐบาลเผด็จการทหาร
และในวันนี้ (1) รัฐสภาชุดใหม่ของพม่าได้เลือก วิน มี้น จากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) และ ที คุน มัต จากพรรคสหภาพสามัคคีและการพัฒนา (USDP) เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
วิน มี้น เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค NLD จากเขตเลือกตั้งพะสิมในสภาชุดก่อน และได้รับเลือกตั้งเข้าทำหน้าที่อีกครั้งจากเขตเลือกตั้งอีกแห่งหนึ่งในการเลือกตั้งปี 2558 ส่วน ที คุน มัต เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชาวกะฉิ่นของพรรค USDP ที่ได้รับเลือกจากเขตเลือกตั้งในรัฐชาน
ในการกล่าวต่อที่ประชุมหลังกล่าวคำสาบานตนในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร วิน มี้น ระบุว่าวันนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยในประวัติศาสตร์การเมืองของพม่า และให้คำมั่นว่าจะมุ่งมั่นเพิ่มพูนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานสำหรับประชาชนของประเทศ
วิน มี้น ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยรุ่งเรือง ส่งเสริมสิทธิของประชาชน และสร้างสหพันธรัฐที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง