ชายสามคนปาเลสไตน์ถูกยิงและถูกฆ่าโดยตำรวจอิสราเอลหลังจากที่พวกเขาถูกกล่าวหาว่าดำเนินการโจมตีในพื้นที่ถูกอิสราเอลยึดครองในเยรูซาเล็มตะวันออก
ตำรวจอิสราเอลระบุว่าชาวปาเลสไตน์มีอาวุธปืน มีดและระเบิด ได้เปิดฉากยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ประตูดามัสกัสในวันพุธ
สองเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ(3 กุมภาพันธ์)เป็นครั้งแรกที่ชาวปาเลสไตน์ถึง 3 คนถูกฆ่าตายในสถานที่เดียวกันนับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
กระทรวงสุขปาเลสไตน์ได้ยืนยันการเสียชีวิตของชายชาวปาเลสไตน์ทั้ง 3 คน
รายงานระบุว่าทั้งสามคนคือ Ahmed Abou Al-Roub, Mohammed Kameel และ Mohammed Nassar ทั้งหมดอายุ 20 ปีเท่ากัน
Imtiaz Tyab ผู้สื่อข่าว อัลญะซีเราะห์ รายงานจากเมือง Ramallah ว่าทั้งสามคนมาจากเมืองเจนิน ในเขตเวสต์แบงค์ พื้นที่ที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอล
“นี้ตอกย้ำความสิ้นหวังในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอล เมื่อคุณพูดคุยกับคนหนุ่มชาวปาเลสไตน์ พวกเขากล่าวว่าการใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเลือก ในดินแดนที่ถูกอิสราเอลยึดครองนานนับทศวรรษแห่งนี้” เขากล่าว
ทั้งนี้บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติกลุ่มในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก่อนหน้านี้ว่า “ความรู้สึกถูกกีดกันและความท้อแท้ที่เป็นเหตุให้ชาวปาเลสไตน์บางกลุ่ม โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว” “อย่างที่ชนทั้งหลายเคยแสดงออกให้เห็นมาแล้วทุกยุคสมัย… มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์เราที่จะต้องตอบโต้การรุกราน ซึ่งบ่อยครั้งกลายเป็นเครื่องบ่มเพาะความเกลียดชังและแนวคิดสุดโต่ง” พร้อมตั้งข้อสงสัยถึงความจริงใจของอิสราเอลในกระบวนการสันติภาพ จนทำให้ถูกนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวหาว่าคำพูดดังกล่าวของเลขาธิการสหประชาชาติคือการสนับสนุนการก่อการร้าย