ฝ่ายต่อต้านซีเรียเรียกร้องให้มีการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสมดุลในการเดินหน้าเจรจาสันติภาพ นานาชาติต้องร่วมกดดันรัสเซียเพื่อให้สันติภาพเกิดขึ้นจริง
World Bulletin รายงานว่าแกนนำฝ่ายต่อต้านหลักในซีเรียกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่(4 กุมภาพันธ์)ผ่านมาว่า หากจะคาดหวังให้การเจรจาสันติภาพที่สหประชาชาติเป็นเจ้าภาพประสบความสำเร็จ นานาชาติโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาต้องกดดันให้รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของกองกำลังชีอะห์ บาชาร์ อัล-อัสซาด เปิดทางให้เกิดสันติภาพให้มากขึ้น
Munzer Makhous จากคณะกรรมการขึ้นสูงของฝ่ายต่อต้านซีเรีย High Negotiations Committee (HNC) กล่าวว่า นานาชาติ โดยสหรัฐอเมริกาต้องช่วยสร้างสมดุลระหว่างผู้แทนเจรจาฝ่ายตรงข้ามเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การเจรจารอบใหม่ประสบความล้มเหลวอีก
ทั้งนี้เมื่อวันพุธ(4)ที่ผ่านมา นาย Staffan de Mistura ทูตพิเศษสหประชาชาติประจำซีเรียได้ประกาศที่จะยุติการเจรจาสันติภาพเป็นการชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยระบุว่า “มีงานหลายอย่างที่ต้องทำ ไม่เพียงเฉพาะแต่เรา แต่รวมถึงฝ่ายต่างๆ ที่มีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ด้วย”
Munzer Makhous กล่าวถึงการยุติการเจรจาเป็นการชั่วคราวนั้น “ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม”
“จำเป็นที่จะต้องมีแรงกดดันจากสหรัฐไปที่รัสเซีย” เขากล่าวที่กรุงเจนีวาขณะที่กำลังจะเดินทางออกจากสวิสเซอร์แลนด์
“ความสมดุลจะต้องเกิดขึ้น อย่างน้อยต้องให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างฝ่ายอัสซาด และฝ่ายต่อต้าน เพื่อเปิดทางให้การประนีประนอมเกิดขึ้นได้” เขากล่าว
โดยในช่วงการเจรจาสันติภาพที่กรุงเจนีวา รัสเซียได้เกิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างหนักในเมืองทางตอนเหนือของซีเรีย เปิดเปิดทางให้กองกำลังชีอะห์ของบาชาร์ อัล-อัสซาด บุกยึดและปิดล้อมเมืองทางตอนเหนือของซีเรียได้จนถึงขณะนี้ แม้ฝ่ายต่อต้านซีเรียจะยื่นเงื่อนไขให้การเจรจาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อการโจมตีต้องยุติลงชั่วคราวก่อน ขณะที่ต่างๆ รวมทั้งอังกฤษที่ออกมากดดันให้รัสเซียยุติปฎิบัติการทางอากาศของรัสเซียในช่วงดังกล่าวก็ตาม
ขณะที่จากการโจมตีทางอากาศของรัสเซียที่เปิดทางให้กองกำลังชีอะห์รุกคืบทางภาคพื้นดินในช่วง 3 วันแรกของการเจรจาได้ส่งผลให้พลเรือนอย่างน้อย 61 คนเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าว
นอกจากนี้ฝ่ายต่อต้านซเีรียยังได้เรียกร้องให้กองกำลังชีอะห์ของบาชาร์ อัล-อัสซาด ปล่อยตัวชาวซีเรียนับพันคน รวมทั้งเด็ก และสตรี และยุติการปิดล้อมพื้นทีดังกล่าวเพื่อบีบบังคับให้ประชาชนในเมืองหิวจนตายในทันที
“แน่นอนเราจะไม่มา ถ้าความคืบหน้าทางด้านมนุษยธรรมไม่เกิดขึ้น” Munzer Makhous กล่าว