“นาโต้” พร้อมหนุนปฏิบัติการทางทะเล สกัดลอบขนผู้อพยพข้ามทะเลเข้ายุโรป

“แอชตัน คาร์เตอร์” ระบุในวันพฤหัสบดี (11 กุมภาพันธ์) ว่านาโต้มีความต้องการที่จะสนับสนุนเยอรมนี กรีซ และตุรกี ตามคำขอที่ให้ช่วยในภารกิจทางทะเลเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์พวกลักลอบขนผู้อพยพบริเวณแนวชายฝั่งทะเลอีเจียนของตุรกี

“นาโต้และทุกฝ่ายที่ร่วมประชุมเช้านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าต้องการให้นาโต้สนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ” คาร์เตอร์กล่าวหลังการประชุมกับบรรดารัฐมนตรีกลาโหม ที่สำนักงานใหญ่ของนาโต้ในกรุงบรัสเซลส์

“ทั้ง 3 ประเทศได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่นาโต้จะต้องดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐอเมริกาเห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นเรื่องที่เดิมพันโชคชะตาและชีวิตผู้คน” คาร์เตอร์กล่าว

คาร์เตอร์ยังบอกด้วยว่า ตอนนี้บรรดานักวางแผนของกองทัพกำลังดูเกี่ยวกับประเด็นนี้อยู่ แล้วจะมีการรายงานกลับไปยังนาโต้เพื่อให้อนุมัติขั้นตอนสุดท้าย

แหล่งข่าวที่เป็นคนของรัฐบาลเยอรมนีระบุในวันพฤหัสบดีว่า ทั้งสามประเทศต้องการให้นาโต้เริ่มตรวจตราทะเลอีเจียน เพื่อจะได้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกค้ามนุษย์ปฏิบัติการตามแนวชายฝั่งตุรกีอย่างไร

นายกรัฐมนตรีเยอรมนี “อังเกลา แมร์เคิล” ผู้ไปเยือนตุรกีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เห็นด้วยที่จะให้ยื่นคำร้องขอการสนับสนุนจากนาโต้ ช่วงที่มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียอีกหลายพันคนได้หลบหนีการต่อสู้แถวเมืองอเลปโป

ตุรกี ชาติมุสลิมรายเดียวในนาโต้ และเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกที่มีกองทัพขนาดใหญ่ ได้กลายเป็นทางผ่านหลักของผู้อพยพเข้าสู่ยุโรปกว่า 1 ล้านรายในปีที่แล้ว

เมื่อไปถึงกรีซ ผู้อพยพส่วนใหญ่จะเดินทางขึ้นเหนือไปสู่เยอรมนีและประเทศที่ร่ำรวยรายอื่นของสหภาพยุโรป ทำให้ยุโรปต้องเจอกับวิกฤตผู้อพยพครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

จากข้อมูลขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน มีผู้อพยพกว่า 70,000 คนได้เดินทางข้ามทะเลที่แสนอันตรายในเดือนมกราคม ในจำนวนนั้นต้องทิ้งชีวิตไปกลางทางมากกว่า 400 ราย

เกรงกันว่าจะมีผู้อพยพอีกหลายแสนคนที่เดินทางตามมาอีกในปีนี้ ด้วยโอกาสอันแสนริบหรี่ที่จะใช้การเจรจาแก้ปัญหาสงครามในซีเรีย ซึ่งการสู้รบมาเป็นเวลาหลายปีนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 260,000 ราย นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2011 รวมถึงทำให้ประชากรครึ่งหนึ่งต้องพลัดถิ่น

ความคิดเห็น

comments