บาชาร์ อัล-อัสซาด แกนนำชีอะห์แห่งซีเรีย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี ว่าจะเดินหน้ายึดครองพื้นที่ทั้งหมดของซีเรียแม้ต้องใช้เวลานาน คำประกาศกร้าวที่มีขึ้นในขณะที่นานาชาติพยายามกดดันหนักหน่วงขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงหยุดหยิงระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับฝ่ายต่อต้าน ขณะที่รัสเซียพยายามยื้อเวลาอ้างพร้อมหยุดยิง 1 มีนา
ในการให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงดามัสกัส ตั้งแต่วันพฤหัสบดี(11 กุมภาพันธ์) แต่เอเอฟพีนำมาเผยแพร่ในวันศุกร์(12 กุมภาพันธ์) นายอัสซาดอ้างว่าเขาสนับสนุนการเจรจาสันติภาพ แต่ “การเจรจาใดๆไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดต่อสู้กับก่อการร้าย”
ผู้นำจอมกระหายเลือดรายนี้เผยต่อว่ากองกำลังรัฐบาลภายใต้การสนับสนุนของรัสเซียกำลังเดินหน้ารุกคืบในจังหวัดอเลปโป ทางภาคเหนือของประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการตัดเส้นทางลำเลียงของฝ่ายต่อต้านจากตุรกี พร้อมระบุว่ามองเห็นความเสี่ยงที่ตุรกีกับซาอุดีอาระเบีย ผู้สนับสนุนหลักของฝ่ายกบฏ จะใช้กำลังทหารแทรกแซงในซีเรีย
นายอัสซาดยังปฏิเสธข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามจากสหประชาชาติ โดยระบุว่ามันมีแรงจูงใจทางการเมืองและปราศจากหลักฐานใดๆ
ภายใต้การสนับสนุนของพันธมิตรหลักอย่างรัสเซียและกองกำลังติดอาวุธชาวชีอะห์ กองกำลังของรัฐบาลชีอะห์ซีเรียใกล้ล้อมกรอบอเลปโป เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของซีเรียอย่างสมบูรณ์แล้ว ขณะที่นายอัสซาดบอกว่าเป้าหมายในท้ายที่สุดของรัฐบาลคือยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดของซีเรีย หลังจากดินแดนอันกว้างขวางของซีเรียถูกฝ่ายต่อต้านซีเรียปลดแอกได้ก่อนหน้านี้
“โดยไม่คำนึงถึงว่าเราสามารถทำได้หรือไม่ เป้าหมายของเราคือแสวงหาความสำเร็จโดยปราศจากความลังเลใจใดๆ” เขากล่าว “ไม่มีเหตุผลที่เราจะบอกว่ายอมเสียดินแดนส่วนหนึ่งส่วนใดก็ได้”
นายอัสซาดบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะยุติปัญหานี้ภายในเวลาไม่ถึงปี หากสามารถตัดขาดเส้นทางลำเลียงของฝ่ายต่อต้านจากตุรกี จอร์แดนและอิรัก แต่หากไม่สำเร็จ เขาระบุว่าทางออกจะใช้เวลานานและคงต้องชดใช้ด้วยราคาที่แสนแพง
ความเห็นดังกล่าวนับเป็นบทสัมภาษณ์แรกของนายอัสซาด นับตั้งแต่การเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในเจนีวาพังครืนลงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โต๊ะหารือดังกล่าวถูกระงับอย่างเป็นทางการไปจนกระทั่งวันที่ 25 กุมภาพันธ์ และ 17 ชาติเห็นพ้องในวันศุกร์(12) ต่อแผนทะเยอทะยานแสดงถึงความตั้งใจเพิ่มความพยายามให้เกิดการเจรจารอบใหม่
แผนดังกล่าวหวังเห็นการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลาอย่างน้อยที่สุดก็ 1 สัปดาห์ และเรียกร้องเปิดทางให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าถึงทุกพื้นที่ของซีเรีย
ในเรื่องนี้ นายอัสซาดอ้างว่ารัฐบาลของเขามีความเชื่อมั่นต่อการเจรจาและในวิธีการทางการเมืองอย่างเต็มที่มานานแล้ว นับตั้งแต่วิกฤตเริ่มต้นขึ้นด้วยซ้ำ “อย่างไรก็ตาม หากว่าเราเจรจา ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดสู้รบกับพวกก่อการร้าย สองเส้นทางนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในซีเรีย”
การจู่โจมเมืองอเลปโปกลายเป็นเป้าหมายหลักของกองกำลังชีอะห์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านา ด้วยกองกำลังชีอะห์ได้ปิดล้อมฝ่ายต่อต้านซีเรียในทางพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองแห่งนี้ หลังจากตัดขาดเส้นทางลำเลียงเสบียงหลักที่มุ่งหน้ามาจากชายแดนตุรกี “การต่อสู้หลักคือการตัดขาดถนนระหว่างอเลปโปและตุรกี ตุรกีคือช่องทางลำเลียงเสบียงสำคัญสำหรับพวกก่อการร้าย” อัสซาดอ้าง
อย่างไรก็ตามปฏิบัติการดังกล่าวก่อความกังวลด้านวิกฤตมนุษธรรม ด้วยประชาชนหลายหมื่นคนงต้องอพยพหลบหนีออกจากบ้าน และจำนวนมากหลั่งไหลไปยังแนวชายแดนติดกับตุรกี ในความหวังผ่านแดนเข้าไปในตุรกี
ผู้ไร้ถิ่นฐานเหล่านี้อาจเป็นระลอกคลื่นล่าสุดของผู้ลี้ภัยมากกว่า 4 ล้านคน ที่เดินทางออกนอกประเทศนับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม 2011 ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว จำนวนมากของผู้อพยพเหล่านั้นต่างมุ่งหน้าหวังไปลี้ภัยในยุโรป ก่อวิกฤตใหญ่หลวงที่กระทั่งฤดูกาลหนาวก็ไม่อาจหยุดยั้งการไหลบ่าได้