อดีตนายกรัฐมนตรี “ฟาอุสแต็ง-อาร์ชองจ์ ตูยาเดรา” ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบชี้ขาดของสาธารณรัฐแอฟริกากลางที่จัดขึ้นในวันเสาร์ (20 กุมภาพันธ์) ความหวังสร้างความสงบ และฟื้นฟูประเทศ
คำแถลงของคณะกรรมการเลือกตั้งกลางของสาธารณรัฐแอฟริกากลางระบุว่า ตูยาเดราในวัย 58 ปีซึ่งลงสมัครในฐานะผู้สมัครอิสระ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบชี้ขาดในวันเสาร์ (20) โดยเขาได้คะแนนเสียงถึง 62.71 เปอร์เซ็นต์ ทิ้งห่างคู่แข่งอย่างอนิเซต์-จอร์เจส โดโลเกเล อดีตนายธนาคารที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่อง “มือสะอาด” ที่ได้คะแนนเสียงเพียง 37.29 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้การเลือกตั้งในรอบแรกที่จัดขึ้นเมื่อ 30 ธันวาคมปีที่แล้ว โดโลเกเลจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะมาครองได้ก็ตาม
อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสาธารณรัฐแอฟริกากลางที่ออกมานี้ยังจำเป็นจะต้องได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากศาลรัฐธรรมนูญของประเทศซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสเสียก่อน
ทั้งนี้ ฟาอุสแต็ง-อาร์ชองจ์ ตูยาเดรา ซึ่งเคยเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองช่วงสั้นๆ หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “นายกรัฐมนตรีคนสุดท้าย” ในยุคของอดีตประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โบซิเซ ที่ปกครองแบบไม่เป็นธรรมจนถูกกลุ่มนักรบเซเลกาซึ่งเป็นชาวมุสลิมโค่นอำนาจเมื่อปี 2013 ขณะที่ฝรั่ง และสหประชาชาติหนุนหลังกลุ่มชาวคริสต์รวมกลุ่ม “แอนตี้-บาลากา” และเริ่มปฎิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมตามชุมชนต่างๆ ทั้งในเมืองหลวง และรุนแรงหนักโดยเฉพาะในภูมิภาค
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ความขัดแย้งในสาธารณรัฐแอฟริกากลางได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายพันคน ขณะที่ประชากรราว 1 ใน 10 จากทั้งหมด 4.8 ล้านคนของประเทศนี้ ต้องอพยพหนีภัยการสู้รบออกจากถิ่นฐานบ้านเรือนของตน
แม้จะมีประสบการณ์ทางการเมืองเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ตูยาเดราสามารถเอาชนะใจประชาชนชาวแอฟริกากลางได้ในระหว่างการหาเสียงซึ่งเขายืนยันจะทำทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อนำความมั่นคงและความสงบสุขกลับคืนสู่ประเทศนี้ และจะฟื้นฟูเศรษฐกิจของดินแดนที่อุดมไปด้วยทรัพยากรแร่ธาตุ แต่กลับยากจนข้นแค้นแห่งนี้