หลักฐานมันตัวเองหลังรถถัง T-90 ของรัสเซียออกปฏิบัติการในการสนับสนุนกองกำลังชีอะห์เป็นครั้งแรกในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ ซึ่งได้กลายเป็นการโชว์พลังทางบกครั้งสำคัญ ไม่ต่างกับการโชว์อำนาจการรบทั้งทางทะเลและทางอากาศที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัสเซียประกาศว่าจะใช้เฉพาะปฎิบัติการทางอากาศในซีเรียเท่านั้น
คลิปชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ผ่านประชาคมออนไลน์ในโลกอาหรับสัปดาห์ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นจรวด TOW ของสหรัฐ พลาดท่าให้กับรถถังรุ่นใหม่ของรัสเซียที่เข้าปฎิบัติการในการสนับสนุนกองกำลังชีอะห์ยึดพื้นที่ของชาวซีเรีย
นอกจากนี้ยังมีภาพนิ่งชุดหนึ่ง ที่ส่งจากสนามรบผ่านทางทวิตเตอร์ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย 2-3 วันมานี้ แสดงให้เห็นฝ่ายกองทัพซีเรียเสรี หรือ FSA (Free Syrian Army) ยิงจรวดโทวเข้าใส่รถถังคันหนึ่ง ที่คุ้มกันกองคาราวานบรรทุกของฝ่ายชีอะห์ แต่พลาดเป้า .. เจ้าของภาพถ่ายกล่าวว่า รถถังคันนั้นเป็น T-90 และ ระบบชตอรา (Shtora-1) ปล่อยม่านควันอิเล็กทรอนิกส์ออกมา ทำให้ระบบนำวิถีจรวด TOW-2A ปั่นป่วน หักเหไปกระทบสิ่งอื่นที่มิใช่เป้าหมาย
เจ้าของภาพกล่าวว่า เป็นเหตุการณ์วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ทางตอนใต้ของเมืองอาเลปโป ซึ่งถูกเครื่องบินรบรัสเซียถล่มอย่างหนักสร้างความเสียหายไม่เว้นแม้โรงพยาบาล หรือโรงเรียน เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มกบฎชาวเคิร์ด และกองกำลังชีอะห์บุกเข้ายึดเมืองดังกล่าวจากกองทัพซีเรียเสรีหรือ FSA
การใช้ T-90 เริ่มทำให้การรบภาคพื้นดินอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในภาคพื้นดินเมื่อ จรวด TOW-2A ที่ฝ่ายต่อต้านใช้อยู่ในปัจจุบัน อาจจะไม่สามารถทำลายรถถังรุ่นใหม่ล่าสุดจากรัสเซียได้เหมือนก่อน ทั้ง T-90A T-90M และ T-90MS ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดในซีรีส์ ล้วนติดตั้งระบบปืนใหญ่ 125 มม. ที่ใช้ระบบตรวจจับเป้าหมายด้วยอินฟราเรด ทำให้สามารถย้อนกลับไปยังจุดซุ่มหรือต้นทางที่ยิงจรวดหรือปล่อยอาวุธออกมา ได้ในระยะ 3-4 กม. และ ปืนใหญ่เสถียร จะหันกระบอกไปจับยังจุดนั้น ก่อนจะส่งกระสุนหรือหัวรบออกไปทำลายโดยอัตโนมัติ นั่นอาจทำให้นักรบที่ใช้จรวด TOW ซุ่มโจมตีรถถังของฝ่ายชีอะห์ นอกจากจะไม่สามารถทำลายรถถังรุ่นใหม่ได้แล้ว ก็ยังตกเป็นเป้าหมายการยิงสวนกลับอีกด้วย
วงการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมองว่า การส่ง T-90 ให้ซีเรียในช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคมที่ผ่านมา และ นำออกปฏิบัติการในช่วงนี้ นับเป็นการโชว์พลังการรบครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ของรัสเซีย ไม่ต่างกับการส่งระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ประสิทธิภาพสูงอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน S-400 หรือ ล่าสุดคือ Su-35 เครื่องบินรบทันสมัยที่สุดของรัสเซีย หรือ Su-30SM ซึ่งเป็น “ตัวท็อป” ของรุ่น เพื่อทำหน้าที่โจมตีและคุ้มกันเครื่องบินรบแบบ Su-34 Su-25 หรือ Su-24 และ เครื่องบินขนาดใหญ่อื่นๆ
หลายเดือนมานี้ รัสเซียยังระดมเฮลิคอปเตอร์โจมตี ทั้ง Mi-24 และ Mi-28 ออกปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินครั้งแล้วครั้งเล่า ร่วมกับเครื่องบินรบรุ่นต่างๆ
ทั้งนี้หลังจากรัสเซียเริ่มปฎิบัติการทางทหารในซีเรียตั้งแต่ 30 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา โดยการขนอาวุธทันสมัยนานาชนิดเข้ามาโชว์ ตามมาด้วยการปล่อยข่าวว่าหลายประเทศสนใจอาวุธที่ผลิตโดยรัสเซียมากขึ้น รวมถึงการที่รัสเซียปล่อยข่าวว่าไทยให้ความสนใจในรถถัง T-90 ด้วยเช่นกัน แต่ทว่าทางการไทยปฎิเสธข่าวดังกล่าว และยืนยันว่ายังไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้น
