จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศบรรลุข้อตกลงหยุดยิงซีเรียชั่วคราวกับรัสเซีย ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีระบุ รัสเซียคือตัวถ่วงสันติภาพในซีเรีย
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี ออกมาแถลงความสำเร็จที่สามารถบรรลุกในหลักการของข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวในสงครามซีเรียที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 5 ปีสำเร็จ
เอเอฟพีรายงานว่า ชาติมหาอำนาจตะวันตกต่างหวังว่าข้อตกลงสงบศึกจะสามารถเริ่มต้นใช้ได้ในวันศุกร์(19)ที่ผ่านมา
และมีรายงานต่อว่า ในวันอาทิตย์ (21) ทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี และรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ต้องประชุมหาข้อตกลงร่วมกันถึง 3 รอบก่อนที่จะสามารถบรรลุข้อตกลงสุดท้ายได้อย่างเป็นทางการ
“เราบรรลุสัญญาหยุดยิงซีเรียชั่วคราวในหลักการได้แล้ว และจะสามารถเป็นผลในทางปฎิบัติได้อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้” เคร์รีย์ออกมาแถลงหลังจากได้มีการหารือรอบแรก
และหลังจากนั้นกระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้แออกแถลงการณ์ว่า หลังจากนั้นทั้งเคร์รีย์และลาฟรอฟ ได้กลับมาเจรจาต่อทางโทรศัพท์อีก 2 ครั้ง และในท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการหยุดยิงในขั้นสุดท้ายสำเร็จ
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ชาติมหาอำนาจตะวันตกได้เสนอแผนการหยุดยิงซีเรียชั่วคราว 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวที่ต้องการขยายขอบเขตความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปถึงพื้นที่ และยังเป็นการเปิดทางเพื่อทำให้การเจรจาสันติภาพที่ยังคั่งค้างอยู่กลับมาเริ่มต่ออีกครั้ง
ทั้งนี้ การเจรจาสันติภาพก่อนหน้านี้ได้ยุติกลางคันไปในต้นเดือนนี้ ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยมีกำหนดที่จะกลับมาเปิดการเจรจาต่อในวันพฤหัสบดี (25) แต่ทว่าเอกอัคราชทูตซีเรียประจำองค์การสหประชาชาติบอกว่าการเจรจารอบใหม่จะไม่เกิดขึ้น
เอเอฟพีรายงานว่า คณะกรรมาธิการเจรจาระดับสูง (HNC) ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายต่อต้านซีเรียขนาดใหญ่ที่ได้รับความสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบีย และกลุ่มประเทศอาหรับ ได้กล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะไม่ยอมตกลงในข้อสัญญาหยุดยิงชั่วคราวนี้ หากบาชาร์ อัล-อัสซาด ไม่ทำตามข้อตกลงนี้ เหมือนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
โดยริอัด ฮิญาบ (Riad Hijab) หัวหน้า HNC ยืนยันว่า ข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีชาติมหาอำนาจตะวันตกเข้าแทรกแซงเท่านั้น และต้องได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากรัสเซีย อิหร่าน และกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ในพื้นที่ซึ่งอยู่ใต้ปีกอิหร่านยอมตกลงหยุดยิง
ในขณะที่ประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์สเปน El Pais ล่าสุดว่า อ้างพร้อมที่จะยอมร่วมมือหยุดยิง แต่อ้างว่าจะไม่ทำในสิ่งที่ผู้ก่อการร้ายได้ประโยชน์
ขณะที่ La Stampa ของอิตาลีรายงานว่า Mevlut Cavusoglu รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีกล่าวถึงแนวทางสันติภาพในซีเรียว่า รัสเซียคือตัวขัดขวางความพยายามในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นยาวนานในซีเรีย โดยเขากล่าวถึงรัสเซียคือ “อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด”
“รัสเซียใช้การเจรจาที่เจนีวาบังหน้าเพื่อซื้อเวลาในการระดมโจมตีใส่ดินแดนซีเรีย เพื่อยึดครองพื้นที่เพิ่มขึ้น” รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีกล่าว
การเจรจาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ล้มลงเนื่องจากสถานการณ์ในซีเรียรุนแรงขึ้นตามการประกาศของ Staffan de Mistura ทูตพิเศษประจำสหประชาชาติ และให้กลับมาเจรจาใหม่ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ในความเป็นจริงคือรัสเซียได้โจมตีอย่างหนัก ฆ่าพลเรือนซีเรียไปอย่างน้อย 130 คนในช่วงที่มีการเจรจา
“พวกเขา(รัสเซีย) กำหนดเป้าหมายที่ โรงเรียน, โรงพยาบาล, ตลาด และสถานที่สำหรับผลเรือนอื่นๆ เมื่อเราพิจารณาเป้าหมายการโจมตีแล้วจะเห็นว่า รัสเซียมีจุดมุ่งหมายที่จะบ่อนทำลายกระบวนการสันติภาพ” Mevlut Cavusoglu รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีกล่าว
