เอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำสหรัฐอเมริกา Ron Dermer ได้แสดงแนวคิดของรัฐบาลอิสราเอลในการสนับสนุนชาวเคิร์ดในการแยกตัวเป็นอิสระในตะวันออกกลาง
หนังสือพิมพ์ Maariv ของอิสราเอลรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่(3 มีนาคม)ผ่านมาว่า ทูตอิสราเอลได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ชาวเคิร์ดว่า “อิสราเอลมีกลุ่มชนอื่นๆ ในตะวันออกกลางที่แท้จริงแล้วเขารักอิสระ และพวกเขากำลังต่อสู้เพื่อเสรีภาพของพวกเขา พวกเขาคือชาวเคิร์ด”
“เรารู้สึกความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากกับพวกเขา ระหว่างชาวเคิร์ดและชาวยิว และระหว่างรัฐอิสราเอลและรัฐชาวเคิร์ด” เขากล่าว
เขากล่าวอ้างอีกว่า “สงครามศาสนาอิสลาม ไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำหรับสำหรับอิสราเอลเท่านั้น แต่เป็นภัยคุกคามของทุกคนในตะวันออกกลาง รวมทั้งชาวคริสต์, ชาวเคิร์ด และมุสลิมทั้งหมด”
ด้านนักการเมืองอิสราเอลได้กล่าววิจารณ์คำพูดของทูตอิสราเอลประจำสหรัฐอเมริกาว่า จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความพยายามของอิสราเอลในการฟื้นความสัมพันธุ์ทางการทูตกับตุรกี
ทั้งนี้รายงานจำนวนมากที่ยืนยันความสัมพันธุ์อันยาวนานระหว่างชาวเคิร์ด และอิสราเอล ทั้งการฝึกทางทหารให้กับกองกำลังชาวเคิร์ด และการส่งอาวุธให้กับชาวเคิร์ด นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีเบญจามิน เนธันยาฮู ยังได้ประกาศตัวอย่างสนับสนุนอย่างเปิดเผยในงานวิจัยที่จัดสถาบันการศึกษาความมั่นคงแห่งชาติสำหรับการสนับสนุนชาวเคิร์ดในอิรักให้เป็นรัฐอิสระ ขณะที่เมื่อปีที่ผ่านมายังพบการลอบส่งออกน้ำมันจากเคิร์ดในอิรักไปยังอิสราเอลด้วย ขณะที่ชาวเคิร์ดกระจายตัวอยู่ในสี่ประเทศประกอบด้วย “อิรัก, อิหร่าน, ซีเรีย และตุรกี” โดยเฉพาะชาวเคิร์ดในตุรกี และซีเรีย ที่ถูกทางการตุรกีขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายจากความพยายามต่อสู้กับรัฐบาลตุรกีในการแยกดินแดนชาวเคิร์ดเป็นอิสระ โดยใช้ซีเรียเป็นที่หลบซ่อนตัว
