ไม่เพียงแต่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเท่านั้นที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการปิดล้อมของอิสราเอล แต่สัตว์ในเมืองข่านยูนุส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ที่กำลังอดตายทุกสัปดาห์ จนเจ้าของจำเป็นต้องขายพวกมัน
สำนักข่าว World Bulletin รายงานว่า ในฉนวนกาซาดินแดนที่ชาวบ้านต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในแต่ละวันไม่เพียงแต่เฉพาะคน แต่รวมถึงสัตว์ในสวนสัตว์ คานยูนุส ที่กำลังอดตายในทุกสัปดาห์
สัตว์นับร้อยตัวในสวนสัตว์ที่เปิดบริการเมื่อปี 2007 ในฉนวนกาซา แต่ตอนนี้มันเหลือเพียงกวางตัวสุดท้ายของฝูง นกกระทุม นกกระจอกเทศ เน่นสองตัว และเสือที่ต้องอยู่ท่ามกลางความผิว แต่ยังคงเด่นเป็นสง่า
ขณะที่กรงสัตว์อื่นๆ กลายเป็นกรงที่ว่างเปล่า และรก ขณะที่มีกลิ่นเหม็นฟุ้งอยู่ในอากาศ ขณะมีแมว และลูกสุนัขที่ร้องโหยหวนอยู่ในคอกของมัน
ตอนนี้หลังจากกว่าปีที่ผ่านมาในความพยายามเจ้าของ Mohammed Aweda เจ้าของสวนสัตว์ได้ยอมรับความพ่ายแพ้ ขณะที่เขาวางแผนที่จะขายเสือและสัตว์ที่ยังเหลือ ก่อนที่จะปิดบริการสวนสัตว์ ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวในความพยายามทำตามความฝันของเขาที่จะมอบความสุขให้กับเด็กๆ ผ่านส่วนสัตว์ฉนวนกาซา
เสือ “ยังไม่ได้กินเนื้อสัตว์มาเป็นเวลาสี่วันแล้ว” Mohammed Aweda บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีระหว่างการเยี่ยมชมสวนสัตว์ร้างของเขา
“อาหารที่มีค่าใช้จ่าย 250 เชเขลอิสราเอล (63เหรียญสหรัฐ หรือ58ยูโร) ต่อวัน” Aweda กล่าวว่า “ฉันไม่ความสามารถในการจัดการที่จะได้รับเงินจำนวนดังกล่าวมาจากการเข้าชมสวนสัตว์ในตลอดปีที่ผ่านมา”
เมื่อช่วงแรกที่สวนสัตว์เปิดบริการในเมืองข่านยูนุส บนพื้นที่ 2 พันตารางเมตร ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยมีนกอินทรี สิงโต เสือ กวาง นกกระยาง และจระเข้ สำหรับค่าเข้าชมเพียง 3 เชเขล
แต่ระหว่างปี 2008 และ 2014, ฉนวนกาซาภายใต้การปกครองของฮามาส ดินแดนแห่งนี้ต้องประสบกับการโจมตีของอิสราเอลถึง 3 ครั้ง
การโจมตีของอิสราเอลต่อดินแดนแห่งนี้ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาของปี 2014 ได้ฆ่าชีวิตชาวกาซาไปทั้งสิ้น 2,251 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และมีชาวอิสราเอล 73 รายเสียชีวิตซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทหาร ตามรายงานของสหประชาชาติ
สัตว์จำนวนมากราว 80 ตัวต้องตายไปจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอล Aweda กล่าว
หลังจากความขัดแย้งสงบลง “ฉันรอคอยวันที่จะเข้ามาในสวนสัตว์ และพบซากสัตวฺ์ในทุกที่”
สุสานที่เปิดโล่ง
อิสราเอลยังคงปิดล้อมชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ทำให้มีความสามารถน้อยมากในทางเศรษฐกิจของชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่เพื่ออยู่รอด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนำเงินที่เหลือมาใช้จ่ายกับสวนสัตว์
ภายในกลิ่นเหม็นออกจากกรงที่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนแทบจะทำให้ผู้เข้าชมที่เคารพในความสะอาดไม่เข้าในสถานที่
จระเข้ในสภาพร่างที่แห้ง และสิงโตสตาร์ฟที่นอนกลางแสงอาทิตย์รอบด้วยกระดูกของสัตว์อื่น ๆ
สภาพอากาศที่ดี แต่ดูเหมือนว่าสวนสัตว์กำลังกลายเป็นเช่นสุสานเปิดโล่ง มากกว่าจะเป็นสถานที่สำหรับความสุข ในขณะที่สวนสัตว์อีก 2 แห่งก็อยู่ในสภาพที่คล้ายกัน
คนขับรถบัสของโรงเรียน Tamer Al-Nirab กล่าวว่าที่ผ่านมาหลายสิบของเด็กที่เข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์ทุกวัน แต่ตอนนี้ “ไม่มีใครสามารถจ่ายเพื่อเข้าไปได้”
แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรของฉนวนกาซาจะพึ่งพาความช่วยเหลือจากนานาชาติตามรายงานของสหประชาชาติ
ในช่วงที่สวนสัตว์ได้รับความนิยมสูงสุด มีสัตว์ 60 กรง โดยมีครอบครัวของ Mohammed Aweda และสมาชิก 13 ครอบครัวที่อยู่ได้จากกิจการนี้
แต่ตอนนี้พวกเขาต้องออกไปหางานอื่นๆ ทำเพื่อพยายามที่จะนำรายได้มาให้เพียงพอสำหรับเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้
“พี่ชาย น้องชายของผมบางคนต้องไปทำงานรับจ้างเป็นคนขับรถ” Aweda กล่าวขณะที่ยืนอยู่หน้ากรงเสืออายุ 8 ปีน้ำหนัก 180 กิโลกรัม (400 ปอนด์)
เสือตัวนี้ลอบเข้ามาจากแอฟริกา เขาอธิบายการนำเจ้าเสือว่า “จากประเทศเซเนกัลส่งมายังอียิปต์แล้วส่งมายังคราบสมุทรซีนาย และส่งเข้าฉนวนกาซาผ่านทางอุโมงค์”
ตอนนี้เขากำลังหวังที่จะขายสัตว์ในราคม 30,000 เหรียญสหรัฐ หลังจากนั้นเขาจะขายที่ดิน และข่านยูนุสจะไม่มีสวนสัตว์แห่งนี้อีกแล้ว