พล.ต.อ.จักรทิพย์ เผยผลตรวจยาที่พบในรถ“เจนภพ” มีสารออกฤทธิ์ทางประสาทแต่ไม่รู้ชนิด ชี้มีประวัติการรักษาโรคซึมเศร้า รอง ผบก.ศพฐ.ยังต้องรอผลพิสูจน์ว่าซิ่งเบนซ์ด้วยความเร็วถึง 250 กม./ชม.จริงหรือไม่
วันอังคาร (22 มีนาคม) MGR Online รายงานว่าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงผลการตรวจยาที่พบภายในรถเบนซ์ของเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาขับรถเบนซ์ชนท้ายรถฟอร์ดเป็นเหตุให้ 2 นิสิตปริญญาโท เสียขีวิต ว่า ล่าสุดได้รับผลการตรวจจาก รพ.สมเด็จเจ้าพระยาแล้ว เบื้องต้นพบเป็นสารที่ออกฤทธิ์ทางประสาท แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารประเภทใด โดยนายเจนภพ มีประวัติการรักษาโรคซึมเศร้า
เมื่อถามว่าผู้ต้องหาจะใช้ช่องทางนี้ในการสู้คดีได้หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตรงนี้เป็นสิทธิของผู้ต้องหาซึ่งต้องสู้ตามข้อกฎหมาย ตรงนี้ตำรวจไม่กังวล แต่อย่าไปมองว่าตำรวจช่วยเหลือผู้ต้องหา ทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย ตำรวจไม่สามารถไปลดโทษใครได้ บางครั้งเราสั่งฟ้องไปถึงศาล ศาลอาจจะสั่งยกฟ้องก็ได้ ซึ่งกรณีแบบนี้เกิดขึ้นจำนวนมาก
ถามต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตรวจสอบประวัติการรักษาของผู้ต้องหาหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในสำนวน ตนไม่ทราบลึกขนาดนั้น ส่วนเรื่องข้อกฎหมายการปฏิเสธการตรวจแอลกอฮอล์ของผู้ต้องหา ถ้าผู้ต้องหาปฏิเสธก็ให้สันนิษฐานว่าเมา
ด้าน พ.ต.อ.ณฐพล สามแสน รองผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 (รอง ผบก.ศพฐ.) กล่าวว่า จากการตรวจพิสูจน์หลักฐานของ ศพฐ.1 เบื้องต้นยังไม่ยืนยันความเร็วของรถเบนซ์ที่นายเจนภพขับชน 2 นิสิตปริญญาโท ต้องใช้เวลาในการดำเนินการไม่ต่ำกว่า 2-3 วันจึงจะสามารถตรวจพิสูจน์ได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างวัตถุอื่นๆ ประกอบด้วยซึ่งมีหลายรายการ ส่วนกรณีที่ข่าวปรากฏตามสื่อออนไลน์ว่าใช้ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น ตนไม่ทราบ และไม่เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในเรื่องนี้