สาธารณรัฐปาเลา กลายเป็นประเทศล่าสุดในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะภาวะภัยแล้ง ขณะที่ทั้งภูมิภาคกำลังเผชิญภัยแล้งรุนแรงที่คาดว่าจะไม่บรรเทาลงในเวลาอันใกล้
ประธานาธิบดีทอมมี เรเมเงเซา ของปาเลาแถลงว่า ปริมาณน้ำฝนในเมืองคอรอร์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศในช่วง 4 เดือนมานี้น้อยที่สุดในรอบ 65 ปี เขื่อนที่มีอยู่เพียงเดียวของเมืองเหือดแห้งไม่มีน้ำ ส่วนแม่น้ำที่เป็นแหล่งน้ำดื่มเพียงแห่งเดียวก็เหลือน้ำเพียงร้อยละ 19 เท่านั้น รายงานอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ภาวะแห้งแล้งจะครอบคลุมทั่วทุกเกาะและแนวปะการังของปาเลาต่อไป เพราะปริมาณน้ำฝนจะต่ำกว่าปริมาณเฉลี่ยไปอีก 2-3 เดือน เมืองคอรอร์เริ่มปันส่วนน้ำตั้งแต่ต้นเดือน โดยเปิดน้ำประปาให้ประชาชนใช้ได้เพียงวันละ 6 ชั่วโมงเท่านั้น การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะทำให้ประธานาธิบดีมีอำนาจพิเศษในการจัดสรรเงินเพื่อใช้ดำเนินมาตรการบรรเทาภาวะภัยแล้ง เช่น การติดตั้งเครื่องกลั่นน้ำจืดจากน้ำทะเล
สำนักงานมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะแห้งแล้งทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกแถบเส้นศูนย์สูตรในขณะนี้ ก่อนหน้านี้สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์และประเทศไมโครนีเซียได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปแล้ว ขณะที่กวมและหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนาซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐกำลังประสบภาวะฝนตกน้อยอยู่ในขณะนี้