ในวันพุธที่ 30 มีนาคม นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย ได้แถลงผลการจับกุมนักค้ายาเสพติดชาวมาเลเซียสองราย ที่ด่านสะเดาพร้อมด้วยของกลางเป็นยาไอซ์หนัก 282 กิโลกรัม หลังจับยาไอซ์และเฮโรอีนล็อตใหญ่ พร้อมผู้ต้องหาชาวมาเลเซียได้ 15 คน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
เบนานิวส์ รายงานว่านาย Chang Kim Sui อายุ 49 ปี และ นาย Lim Yean Hooi อายุ 37 ปี ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ในจังหวัดสงขลา ขณะขนยาไอซ์ผ่านด่านในวันอังคารนี้
พลตำรวจโทเรวัช กลิ่นเกษร ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้กล่าวในการแถลงข่าวผลการจับกุมว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดของมาเลเซีย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลทั้งสอง ซึ่งได้เข้ามาเช่าบ้านในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นเวลานับเดือน และทางเจ้าหน้าที่ของไทยได้ติดตามจนสามารถจับกุมได้ในที่สุด
“ยาชุดนี้ เข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มต้นได้รับข้อมูลมาจากทางมาเลย์ก่อน ว่าแก๊งค์นี้มาจากมาเลเซีย เราก็ตามว่าเขาติดต่อกับใครบ้างอย่างไร เขาเข้ามาเช่าบ้านที่สะเดาเป็นเดือน เราก็ตามเป็นเดือน” พล.ต.ท.เรวัชกล่าว และว่าขบวนการขนยาทั้งสองที่จับกุมได้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน
พล.ต.ท.เรวัช ไม่ได้ระบุประเทศผู้ผลิตยาไอซ์ แต่ได้กล่าวว่า ปกติเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดจะเริ่มจากประเทศเมียนมา ผ่านไปยังประเทศลาว และเวียดนาม และบางครั้งจะผ่านเข้าประเทศจีน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไทยได้ให้คำแนะนำต่อประเทศเพื่อนบ้าน ในการเข้มงวดการตรวจตราเส้นทางในประเทศนั้นๆ กลุ่มนักค้ายาได้เลือกเส้นทางในภาคเหนือและภาคอิสานมุ่งหน้าไปมาเลเซียแทน
“แต่เดิมเขาขนออกเวียดนาม จากเมียนมาร์ไปลาวออกเวียดนาม เราก็ร่วมมือกับเวียดนาม บอกว่ามันขนออกทางนี้ เวียดนามก็จับได้ ที่หลุดออกไปก็ถูกจับได้ที่ออสเตรเลีย เราไปให้คำแนะนำทางให้ตั้งด่าน” พล.ต.ท.เรวัช กล่าว
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดหมายปลายทางของยาเสพติด อยู่ในยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย
พลตำรวจเอกพงศพัฒน์ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. กล่าวเสริมว่า “อาจเป็นข้อสงสัยว่ามันมากมายขนาดนี้ มันมาจากไหนอย่างไร เรามีข้อมูลบางส่วนแล้ว แต่กำลังจะหาความเชื่อมโยง ต้องเอาเข้าห้องแล็บว่าส่วนผสมของล็อตนี้และล็อตที่ผ่านมา[เมื่อวันที่ 24 มีค.] มีส่วนผสมเดียวกันหรือไม่ แต่ผมดูแล้วใกล้เคียงกัน และลักษณะหีบห่อก็ใกล้เคียงกัน แต่ว่าโรงงานผลิตไอซ์เป็นโรงงานขนาดใหญ่ แต่เครือข่ายใครจะไปขน เป็นคนละส่วนกัน”
ทางด้าน พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวในการแถลงข่าวที่มีผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซีย ดาโต๊ะ มอคต้า ร่วมแถลงว่า “เราถือว่าล็อตนี้ เป็นล็อตใหญ่ที่สุดในรอบหลายๆ ปี”
ดาโต๊ะ มอคต้า ได้กล่าวชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไทย และได้กล่าวว่า ความสำเร็จในการปราบปรามยาเสพติดนั้น จะเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือระหว่างกัน
“มาเลเซียได้ประกาศสงครามกับยาเสพติดอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เราจะชนะสงครามนี้ได้ก็ด้วยความร่วมมือระหว่างกัน แต่ละประเทศต้องร่วมกันในการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณให้พวกนักค้ายาเห็นว่า พวกเขาไม่สามารถหลุดรอดกฎหมายไปได้” ดาโต๊ะ มอคต้า กล่าว
ดาโต๊ะ มอคต้า ยังได้กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา มาเลเซียจับยาเสพติดทุกประเภทมีมูลค่ารวม 280 ล้านริงกิต ส่วนในสามเดือนแรกของปีนี้นั้น สามารถจับกุมคิดเป็นมูลค่าได้ 60 ล้านริงกิต