กองทัพฟิลิปปินส์ แถลงในวันเสาร์ (9 เมษายน) ระบุ มีกำลังพลของฝ่ายตนจำนวนอย่างน้อย 18 นาย เสียชีวิตจากผลพวงของเหตุยิงปะทะกันอย่างหนักหน่วงกับกลุ่มอาบูซัยยาฟ ทางภาคใต้ของประเทศ
นอกเหนือจากเหตุยิงปะทะดังกล่าวซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 รายแล้ว เหตุยิงปะทะกันระหว่างทหารรัฐบาลฟิลิปปินส์ กับกลุ่มกบฏอาบูซัยยาฟในครั้งนี้ ยังส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 52 ราย
รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคง ระบุว่า เหตุยิงปะทะในครั้งนี้เกิดขึ้นบนเกาะบาซิลัน ที่อยู่ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ในวันเสาร์ (9) และถือเป็นเหตุยิงปะทะที่ใหญ่ รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในรอบ 1 วันของฟิลิปปินส์
ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ เพิ่งเกิดเหตุสมาชิกกลุ่มติดอาวุธในฟิลิปปินส์บุกเข้าลักพาตัวลูกเรือชาวมาเลเซีย จำนวน 4 ราย ของเรือสินค้าลำหนึ่งนอกชายฝั่งของรัฐซาบาห์ ถือเป็นเหตุโจมตีอุกอาจที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์
รายงานข่าวที่มีการเผยแพร่เมื่อ 2 เมษายน ระบุว่า กลุ่มมือปืน จำนวน 8 ราย ที่คาดว่าเป็นสมาชิกกลุ่มอาบูซัยยาฟ ซึ่งใช้เรือเร็วเป็นพาหนะบุกเข้าปล้นเรือสินค้า “MV Massive 6” สัญชาติมาเลเซีย โดยที่กลุ่มมือปืนได้ทำการลักพาตัวลูกเรือ จำนวน 4 นาย ที่เป็นชาวมาเลเซียไปด้วย แต่กลับปล่อยลูกเรือที่เหลือซึ่งเป็นชาวพม่า และอินโดนีเซียเอาไว้
หลังเกิดเหตุ ทางการฟิลิปปินส์ออกมาแถลงว่า กำลังเร่งประสานงานกับทางการมาเลเซียอย่างใกล้ชิดเพื่อสืบสวนเหตุระทึกขวัญครั้งนี้ ขณะที่กองทัพเรือมาเลเซียประกาศยกระดับการลาดตระเวนทั้งทางบก และทางทะเลเพื่อหาทางจับตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้มารับโทษ