ผู้นำชีอะห์จอมแสบของซีเรีย ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ผู้สั่งการให้มีการสังหารพลเรือนชาวซีเรียนับแสนคน ล่าสุดเย้ยเวทีเจรจาสันติภาพซีเรียด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของซีเรีย ในวันเดียวกับที่มีการเจรจาสันติภาพ ที่จะกำหนดอนาคตของซีเรีย ด้านฝ่ายต่อต้านซีเรียี้การเลือกตั้งลักษณะนี้ปราศจากความชอบธรรม
หน่วยเลือกตั้งเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าไปลงคะแนนได้ในเวลา 7.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (11.00 น. ตามเวลาในไทย) และจะเปิดต่อเนื่องไปอีก 12 ชั่วโมง เว้นเสียแต่ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะสั่งขยายเวลา “เนื่องจากมีผู้มาใช้สิทธิ์มาก”
การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 สำหรับซีเรีย นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองเริ่มปะทุเมื่อต้นปี 2011 โดยเบื้องต้นมีผู้ยื่นใบสมัครรวมทั้งสิ้น 11,341 คนเพื่อช่วงชิงที่นั่งในรัฐสภาซึ่งมีอยู่เพียง 250 ที่นั่ง
ฮิชาม อัล-ชาร์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งสูงสุด บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เวลานี้เหลือผู้สมัครอยู่เพียง 3,500 คน นอกนั้นถอนตัวออกไปหมด “เพราะไม่เห็นโอกาสที่จะชนะ”
การเลือกตั้งครั้งนี้ครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่รัฐบาลควบคุมอยู่ ซึ่งเท่ากับ 1 ใน 3 ของซีเรีย หรือคิดเป็นสัดส่วนประชากรแค่ 60% ของทั้งประเทศ และจัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้แทนรัฐบาลซีเรียและฝ่ายต่อต้านซีเรียเปิดเจรจาสันติภาพรอบ 2 ที่นครเจนีวา เพื่อหาทางยุติสงครามกลางเมืองซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 5 ปี และกำหนดอนาคาตของซีเรีย
ทั้งองค์การสหประชาชาติและฝ่ายต่อต้านซีเรียต่างไม่ยอมรับในความชอบธรรมของการเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า พรรคบาธของ อัสซาด คงจะคุมเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาตามเคย แม้จะมีหลายพรรคที่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันก็ตาม
สถานการณ์การสู้รบในจังหวัดอะเลปโปของซีเรียเริ่มส่อเค้ารุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันมานี้ ซึ่งอาจกระทบต่อข้อตกลงหยุดยิงที่บังคับใช้มาแล้วราว 6 สัปดาห์
นานาชาติได้ให้ความเห็นชอบต่อโรดแมปสันติภาพซีเรีย โดยกำหนดให้มีการเปิดเจรจาระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านเพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวภายใน 6 เดือน ตามมาด้วยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และจะต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปให้สำเร็จภายใน 18 เดือน
คณะกรรมการเจรจาระดับสูง (High Negotiations Committee – HNC) ซึ่งเป็นผู้แทนฝ่ายต่อต้านซีเรีย เรียกร้องให้มีการสร้าง “องค์กรปกครองช่วงเปลี่ยนผ่านที่มีอำนาจบริหารอย่างสมบูรณ์” ในซีเรีย พร้อมย้ำว่า ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด จะ “ไม่มีสิทธิ์” เข้าร่วมรัฐบาลในอนาคต และในช่วงรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนผ่าน