ยอดผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด เขย่าเอกวาดอร์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 77 รายแล้ว โดยมีอาคารหลายแห่ง และสะพานแห่งหนึ่งได้รับความเสียหาย และทำให้ชาวบ้านที่ตื่นกลัวต้องหลบหนีออกจากบ้านของพวกเขา ทางการเอกวาดอร์ระบุในวันนี้ (17)
“พระเจ้าช่วย นี่เป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และรุนแรงที่สุดที่ฉันเคยรู้สึกได้ในช่วงชีวิตทั้งหมดของฉัน มันคงอยู่เป็นเวลานาน และผมรู้สึกเวียนศีรษะ” มาเรีย ตอร์เรส วัย 60 ปี ชาวบ้านในกรุงกีโตที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเมื่อค่ำวานนี้ กล่าว
“ฉันเดินไม่ได้เลย ฉันต้องการวิ่งออกไปยังถนน แต่ฉันทำไม่ได้”
แผ่นดินไหวครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 7.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ห่างจากกรุงกีโตไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 170 กิโลเมตร คงอยู่เป็นเวลาราวๆ หนึ่งนาที และรู้สึกได้ทั่วทั้งเอกวาดอร์ ตอนเหนือของเปรู และตอนใต้ของโคลอมเบีย
รองประธานาธิบดีฮอร์เก กลาส กล่าว ยอดผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกในสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น “แผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดที่เราเผชิญในรอบหลายทศวรรษ”
“ในเวลานี้ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 77 ราย” กลาส กล่าวเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (17) พร้อมเสริมว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 588 ราย มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 6 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด
ตำรวจ กองทัพ และหน่วยฉุกเฉิน “อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมเต็มที่ที่จะปกป้องชีวิตของพลเมืองของเรา”
ประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย เขียนบนทวิตเตอร์ระหว่างการเยือนนครวาติกัน ว่า เขากำลังกลับเอกวาดอร์อย่างเร่งด่วน
ในเมืองท่ากวายากอล ฝั่งแปซิฟิก ที่อยู่ของประชาชนกว่า 2 ล้านคน มีสะพานแห่งหนึ่งพังถล่มทำลายรถยนต์คันหนึ่งที่อยู่ข้างใต้ และชาวบ้านกำลังรื้อซากบ้านเรือนที่อยู่ในสภาพกองอิฐ และไม้ ช่างภาพเอเอฟพีรายงาน
สำนักงานภูมิศาสตร์กายภาพของเอกวาดอร์ รายงานถึงความเสียหายเชิงโครงสร้าง “อย่างสำคัญ” ในพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว และในเมืองกวายากอล
