ฝ่ายต่อต้านซีเรียประกาศเมื่อวันจันทร์(18 เมษายน)พร้อมจะตอบโต้กองกำลังชีอะห์ของบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ยิงกระสุนสังหารพลเรือนอย่างต่อเนื่องทั้งที่อยู่ในช่วงหยุดยิงที่มีองค์การสหประชาชาติ สหรัฐ และรัสเซียเป็นคนกลาง
กลุ่มเหล่านี้ซึ่งรวมถึงฝ่ายที่ต่อสู้ภายใต้ร่มธงของกลุ่มฟรีซีเรียนอาร์มี (FSA) และกลุ่มอะห์เราะร์ อัช-ชาม ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขาพร้อมจะใช้กำลังตอบโต้กองกำลังของบาชาร์ที่ยิงเข้าใส่พลเรือน
ข้อตกลงหยุดยิงถูกทำให้ตึงเครียดจนถึงจุดแตกหักเพราะการไม่เคารพข้อตกลงของกองกำลังชีอะห์ของบาชาร์ อัล-อัสซาดที่มีรัสเซียให้การหนุนหลัง โดยเฉพาะรอบเมืองอเลปโปที่ถูกแยกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายต่อต้านซีเรียในการดูแลพลเรือนชาวซีเรียที่หนีตายจากพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ และอีกส่วนหนึ่งอยู่ภายใต้การยึดครอของกลุ่ม ISIL แต่การโจมตีอย่างหนักของทัพชีอะห์เข้าพุ่งเป้าไปที่ฝ่าย FSA ที่มีการทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวไว้ รวมไปถึงการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในตอนเหนือของเมืองฮอมส์ด้วย
เจ้าหน้าที่อาวุโสของฝ่ายต่อต้านกล่าวว่า กำลังมีแรงกดันมากขึ้นเรื่อยๆ ให้มีการตัดสินใจออกจากการเจรจาที่ถูกจัดขึ้นโดยผู้แทนสหประชาชาติ สตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ในนครเจนีวา โดยที่ไม่มีสัญญาณของการคืบหน้าไปสู่การตัดสินใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองอันเป็นเป้าหมายของฝ่ายต่อต้านประธานิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดที่ยังคงได้รับการหนุนหลังจากเหนียวแน่นจากรัสเซีย และอิหร่าน
ถ้อยแถลงนี้ประกาศ “การสร้างห้องปฏิบัติการร่วมเพื่อเริ่มต้นการสู้รบ ในการตอบโต้ต่อการละเมิดของกองทัพอัสซาด” พวกเขาไม่ได้ให้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์สำหรับการสู้รบครั้งใหม่นี้
เมื่อวันอาทิตย์ (17) ผู้แทนการเจรจาอาวุโสของฝ่ายต่อต้านซีเรียเรียกร้องให้นักรบโต้กลับกองทัพซีเรีย พร้อมกล่าวว่ากองทัพซีเรียใช้ข้อตกลงยุติการเป็นปฏิปักษ์เพื่อ รุกคืบ และแสดงความสงสัยว่าพวกเขาอาจจะเลื่อนการเจรจาสันติภาพเจนีวาออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ข้อตกลงยุติการเป็นปฏิปักษ์ซึ่งมีสหรัฐฯและรัสเซียเป็นคนกลางมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยมีเป้ามหายเพื่อทำให้การเจรจาสันติภาพเริ่มต้นขึ้น ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้รวมถึงกลุ่ม ISIL หรือกลุ่มอันนุสเราะฟรอนท์