จลาจลในไคโร ไม่พอใจ ตร.กร่างยิงพ่อค้าแค่ทะเลาะเรื่องราคาชา

เกิดจลาจลปะทุขึ้นย่านชานกรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ในวันอังคาร (19 เมษายน) ตามหลังการประท้วงแสดงความขุ่นเคืองต่อกรณีตำรวจชักปืนยิงชาย 3 คนหลังทะเลาะกันเกี่ยวกับราคาน้ำชา ส่งผลให้หนึ่งในนั้นเสียชีวิต เหตุการณ์ที่ย้อนรอยให้นึกถึงการลุกฮือของประชาชนโค่นล้มอดีตประธานาธิบดี ฮอสนึ มูบารัค เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งก็มีต้นตอส่วนหนึ่งจากความโกรธแค้นเกี่ยวกับการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่

ความโกรธเคืองของประชาชนต่อความโหดร้ายปาเถื่อนของตำรวจทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ด้วยหลายเหตุการณ์ลุกลามบานปลายกลายเป็นเหตุปะทะเล็กๆ น้อยๆ และการชุมนุมประท้วง 5 ปีหลังจากเจ้าหน้าที่ซึ่งสังกัดกระทรวงมหาดไทยตกเป็นเป้าหมายไม่พอใจในเหตุลุกฮือของประชาชนเมื่อปี 2011

ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเก็บปลอกกระสุนได้และกล่าวหาตำรวจฆ่าคนยากจนอียิปต์ จากนั้นฝูงชนก็มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ช่วยกันพลิกรถตำรวจหงายท้องและทำร้ายตำรวจอีกนาย ณ จุดเกิดเหตุ “กระทรวงมหาดไทยคือพวกวายร้าย” ฝูงชนราวๆ 200 คนต่างพากันร้องตะโกน

พวกนักเคลื่อนไหวระบุว่าความป่าเถื่อนของตำรวจกำลังแผ่ลามอย่างกว้างขวางในอียิปต์ เช่นเดียวกับวัฒนธรรมการยกเว้นโทษ อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยแก้ต่างว่าเหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีอื่นๆ และอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวน

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าเรื่องผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่าพบเห็นการโต้เถียงกันเกี่ยวกับราคาน้ำชาในวันอังคาร (19) ขณะที่วิดีโอหนึ่งที่แชร์โดยผู้เห็นเหตุการณ์เป็นภาพชายคนหนึ่งกำลังนอนรวยรินอยู่บนพื้นและล้อมรอบไปด้วยฝูงชนที่โกรธกริ้ว

กระทรวงมหาดไทยระบุในถ้อยแถลงว่าตำรวจนายหนึ่งมีปากเสียงกับพ่อค้าเกี่ยวกับราคาเครื่องดื่ม ก่อนบันดาลโทสะยิงพ่อค้ารายนี้เสียชีวิต ขณะที่ระหว่างนั้นก็ลั่นไกทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน

แหล่งข่าวทางศาลเผยกับรอยเตอร์ว่า ตำรวจยิงชาย 3 คนด้วยปืนไรเฟิลก่อนหลบหนีไป และเหยื่อเสียชีวิตจากกระสุนที่พุ่งทะลุหัวใจ

“มีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน รถตำรวจปราบจลาจล 2 คันบรรทุกกองกำลังด้านความมั่นคงมาเต็มคันและยังมีรถบรรทุกกันกระสุนอีกคัน ครอบครัวเหยื่ออยู่ที่นี่ด้วยและขว้างปาพวกเขาด้วยก้อนหิน” ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามบอก “กองกำลังด้านความมั่นคงต้องล่าถอยไปและให้สัญญาว่าจะมอบความยุติธรรม แต่ฝูงชนเรียกร้องตำรวจให้ส่งมอบตัวฆาตกรมาให้”

ความขุ่นเคืองต่อการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจช่วยกระพือเหตุลุกฮือของประชาชนโค่นอำนาจการปกครองกว่า 30 ปีของอดีตประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ทว่านับตั้งแต่นั้นตำรวจได้กอบกู้อำนาจคืนมา และพวกนักสิทธิมนุษยชนบอกว่าพวกเขาได้กลับสู่แนวทางเดิมๆ อีกครั้ง

ความคิดเห็น

comments