UNESCO : อักซอเป็นของมุสลิม ประณามยิวทำหลุมศพปลอมบิดประวัติศาสตร์

ยูเนสโกระบุสิ่งปลูกสร้างที่ยิวอ้างในหลุมศพชาวมุสลิมในบริเวณมัสยิด อัลอักซอ เป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นใหม่ ชัดเจนพื้นที่อักซอเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของมุสลิม ไม่มีความเกี่ยวข้องกับชาวยิว

สำนักข่าว World Bulletin ของตุรกีรายงานการเปิดเผยข้อมูลของสำนักข่าว RT ของรัสเซียว่า ยูเนสโกมีมติเมื่อวันที่ 11 เมษายน ในการระบุว่ามัสยิดอัล-อักซอ และสถานที่สำคัญอื่นๆ ในเฮบรอน และเบทเลเฮม “เป็นส่วนของปาเลสไตน์” และยังประณามอิสราเอลสำหรับการใช้อำนาจเข้ายึดครองพื้นที่และสร้างหลุมศพปลอมในพื้นที่ฝังศพของชาวมุสลิม

ร่างมติของคณะกรรมการบริหารยูเนสโกในพื้นที่ของปาเลสไตน์ระบุเมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมาว่า สองสถานที่สำคัญคือมัสยิดอิบรอฮีมในกลางเมืองเก่าเฮบรอน และมัสยิด Bilal bin Rabah ในเมืองเบทเลเฮม เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาของชาวมุสลิม

ยูเนสโก “ขอยืนยันว่าสถานที่ทั้งสองในเฮบรอน และเบทเลเฮม เป็นพื้นที่ของปาเลสไตน์” และ “ไม่ยอมรับในการดำเนินการของอิสราเอลสำหรับการขุด ค้น และการกระทำที่ผิดกฏหมายระหว่างประเทศ การก่อสร้างถนนเชื่อมต่อพื้นที่ยึดครองผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว และการสร้างกำแพงปิดกั้นเขตเมืองเก่า เฮบรอน ถือเป็นอันตรายต่อความสมบูรณ์ต่อสถานที่สำคัญ”

ยูเนสโกยังได้กล่าวถึงการดำเนินการของอิสราเอลในการโจมตีต่อพื้นที่ของชาวมุสลิมใน Al Haram Al-Sharif ในเขตมัสยิดอัล-อักซอ

“ขอประณามการรุกรานของอิสราเอล และมาตรการที่ผิดกฎหมาย กับเสรีภาพในการปฎิบัติตามศาสนกิจของชาวมุสลิม ต่อพื้นที่มัสยิดอัล-อักซอ Al Haram Al-Sharif และขอให้อิสราเอลเคารพต่อสถานะประวัติศาสตร์เดิมและหยุดทันทีมาตรการที่ดำเนินการอยู่”แถลงการระบุ

ยูเนสโกเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดสำหรับคำสั่ง “ห้ามชาวมุสลิมทำการฝังศพในพื้นที่บางส่วนที่อิสราเอลสร้างหลุ่มศพปลอมของชาวยิวขึ้นในสถสานของชาวมุสลิม”

ความคิดเห็น

comments