คว่ำบาตรนิวเคลียร์ลวงโลก สหรัฐลูกค้ารายแรกซื้อผลผลิตนิวเคลียร์อิหร่าน รัสเซียต่อคิวซื้อ

การควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านแบบลวงโลกของตะวันตกกลายเป็นเรื่องแดงขึ้น หลังล่าสหรัฐอเมริกาตัวหลังในการคว่ำบาตรนิวเคลียร์อิหร่านกลายเป็นลูดค้ารายแรงในการซื้อน้ำมวลหนักที่เป็นผลผลิตจากการผลิตนิวเคลียร์ ขณะที่รัสเซียกำลังเป็นลูกค้ารายที่ 2 สำหรับยอดสั่งซื้อ 40 ตัน

ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจ เตหะรานมีหน้าที่รับผิดชอบในการลดสต๊อกน้ำมวลหนักซึ่งเป็นส่วนประกอบของการสร้างอาวุธนิวเคลียร์และผลิตพลังงานนิวเคลียร์

มันไม่ใช่สารกัมมันตรังสีและข้อตกลงนิวเคลียร์ก็ให้สิทธิ์อิหร่านในการขาย เจือจางหรือควบคุมมันภายใต้สภาพที่แน่นอน

อับบาส อารักชี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศอิหร่านและทำหน้าที่หัวหน้าผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟาร์สนิวส์ในช่วงค่ำวันอาทิตย์(24 เมษายน) ว่าสหรัฐฯเป็นผู้ซื้อน้ำมวลหนักรายแรกของอิหร่านและมหาอำนาจโลกรายอื่นๆ ในนั้นรวมถึงรัสเซีย ก็แสดงความสนใจด้วยเช่นกัน

“เรากำลังเจรจากับรัสเซีย ในการขายน้ำมวลหนัก 40 ตัน” อารีกชีกล่าว ขณะที่ต่อมาทางกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ก็ยืนยันเช่นกันว่ามอสโกกำลังพิจารณาซื้อน้ำมวลหนักจริง

ในเดือนมกราคม อิหร่านถอดแกนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ำมวลหนักที่โรงงานนิวเคลียร์อารัค ทางภาคกลางของประเทศ และเติมปูนซีเมนต์ลงไปตามข้อบังคับของข้อตกลงนิวเคลียร์ ขณะที่สหรัฐฯ รัสเซียและจีน เห็นพ้องร่วมกันออกแบบใหม่และสร้างเตาปฏิกรณ์ที่ทันสมัยทดแทนแก่ให้แก่อิหร่าน

เมื่อวันศุกร์(22) กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงกับอิหร่าน ในการซื้อน้ำมวลหนักปริมาณ 32 ตันจากโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลอิหร่าน มูลค่า 8.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมีการส่งมอบสินค้าภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงซื้อขายน้ำมวลหนักดังกล่าวถูกโจมตีแทบจะทันทีในวอชิงตัน โดยพวกฝ่ายต่อต้านบอกว่า มันเป็นการอ่อนข้อให้แก่อิหร่านอีกครั้งและเลยเถิดไปไกลเกินกว่าการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอย่างมาก ซึ่งก่อรอยร้าวในกำแพงที่ขัดขวางอิหร่านจากระบบการเงินของสหรัฐฯ

“เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลของโอบามา ส่งมอบเงินสดเพิ่มเติมแก่รัฐบาลหัวรุนแรงอิหร่าน” เอ็ด รอยซ์ ประธานคณะกรรมการกิจการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าว “การซื้อวัตถุที่อ่อนไหวของสหรัฐฯ ครั้งนี้เลยเถิดไปไกลเกินกว่าข้อบังคับในข้อตกลงนิวเคลียร์”

ด้าน พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรใช้คำพูดรงๆ ว่า “การซื้อขายครั้งนี้จะเป็นการอุดหนุนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยตรง และเป็นอ่อนข้ออย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนต่อรัฐผู้สนับสนุนก่อการร้ายชั้นนำของโลก”

อย่างไรก็ตามนายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แก้ต่างว่าข้อตกลงดังกล่าวทำให้รับประกันได้ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายน้ำมวลหนักจากอิหร่าน ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการวิจัยที่สำคัญหรือในอุตสาหกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางนิวเคลียร์

ขณะที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯชี้แจงว่าน้ำมวลหนักที่ซื้อขาย จะถูกนำไปขายต่อแก่ภาคเอกชนในประเทศ รวมถึงกลุ่มนักวิจัยและห้องปฏิบัติการแห่งชาติ

ความคิดเห็น

comments