ความพยายามดับไฟป่าทางภาคกลางค่อนไปทางตะวันตกของแคนาดามาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในวันจันทร์ (9 พฤษภาคม) โดยสภาพอากาศเย็นลงจากฝนที่ตกลงมาปรอยๆ และกระแสลมเอื้ออำนวย เกื้อหนุนเหล่านักเผชิญเพลิงสู้กับไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดหนหนึ่งของประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังประเมินความเสียหายของเมืองฟอร์ต แมคเมอร์เรย์, รัฐแอลเบอร์ตา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางเขตทรายน้ำมัน
ไฟป่าที่เริ่มโหมกระพือมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ได้แผ่ลามอย่างรวดเร็วจนชาวบ้านกว่า 88,000 คนของเมืองแทบไม่มีเวลาหลบหนีออกมา และพื้นที่ละแวกใกล้เคียงทั้งหมดถูกทำลาย โดยรัฐบาลของรัฐแอลเบอร์ตาคาดหมายเมื่อวันอาทิตย์ (8) ว่าไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 395,000 เอเคอร์ (158,000 ไร่)
เดิมทีคาดหมายว่าไฟป่าในภูมิภาคทรายน้ำมัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐแอลเบอร์ตา จะแผ่ลามขยายวงเป็น 2 เท่าในวันอาทิตย์ (8) แต่ฝนที่ตกลงมาปรอยๆ และอุณหภูมิที่เย็นลงช่วยชะลอมันเอาไว้ “มันเป็นสภาพอากาศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดับเพลิง เราสามารถเข้าไปที่นั่นและจัดการกับไฟ และสามารถดับมันได้” ชาด มอร์ริสัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงแอลเบอร์ตากล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (8)
คาดหมายว่าอุณหภูมิซึ่งแตะระดับ 17 องศาเซลเซียสในวันอาทิตย์ (8) จะเย็นลงต่อเนื่อง โดยสภาพอากาศจะลดลงราว 10 องศาเซลเซียสไปจนถึงวันศุกร์ (13) ขณะที่หน่วยงานสิ่งแวดล้อมแคนาดาประมาณการว่ามีโอกาสราว 40 เปอร์เซ็นต์ที่จะมีฝนตกลงมาปรอยๆ ในฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ ในวันจันทร์ (9)
เจ้าหน้าที่บอกชัดเจนว่ายังเร็วเกินไปที่จะกำหนดกรอบเวลาในการพาผู้อพยพหลายพันคนที่พักพิงชั่วคราวตามเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกลับไปยังฟอร์ต แมคเมอร์เรย์เร็วๆ นี้ แม้บ้านพักของคนเหล่านั้นไม่ได้รับความเสียหายก็ตาม ขณะที่เมืองได้ปิดการจ่ายก๊าซ ระบบจ่ายไฟฟ้าได้รับความเสียหาย และน้ำยังไม่สามารถบริโภคได้
ราเชล นอตลีย์ มุขมนตรีรัฐแอลเบอร์ตาระบุเมื่อวันอาทิตย์ (8) ว่า ความพยายามฟื้นฟูได้เริ่มขึ้นแล้ว ด้วยพนักงาน 250 คนจากบริเวณพลังงาน ATCO กำลังเร่งมือกู้ไฟฟ้าและประเมินโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซ
เมืองฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ เป็นศูนย์กลางภูมิภาคทรายน้ำมันของแคนาดา โดยเป็นแหล่งผลิตน้ำมันจากทรายราวครึ่งหนึ่งของประเทศ หรือ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่จากวิกฤตไฟป่าทำให้ต้องหยุดการผลิตทั้งหมด ซึ่งปัจจัยนี้ดันให้ราคาน้ำมันโลกทะยานขึ้นเกือบ 2 เปอร์เซ็นต์ระหว่างการซื้อขายในตอนเช้าวันจันทร์ (9) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัว
ไฟป่าครั้งนี้กำลังกลายเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีมูลค่าความเสียหายหนักหนาที่สุดในประวัติศาสตร์ของแคนาดา ด้วยนักวิเคราะห์รายหนึ่งคาดหมายว่าความเสียหายด้านประกันภัยน่าจะสูงถึง 9,000 ล้านเหรียญแคนาดา (7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)