องค์กรนิรโทษกรรมสากลออกแถลงการณ์ย้อนแย้งกันเอง โดยอ้างว่าระเบิดดาวกระจาย (cluster bombs) ที่ผลิตจากสหรัฐ, อังกฤษ และบราซิลถูกเครื่องบินรบของกลุ่มพันธมิตรซาอุดีอาระเบียนำมาโปรย ส่งผลให้ภาคเหนือของเยเมนกลายสภาพเป็น “เขตทุ่นระเบิด” ซึ่งอาจทำให้พลเรือนล้มตายหรือพิการเสียแขนขา โดยที่ผ่านมาองค์กรดังกล่าวพยายามกล่าวหาดังกล่าวต่อซาอุดิอาระเบียหลายครั้ง เพื่อสกัดความพยายามของซาอุดิอาระเบียในการปลดปล่อยเยเมนจากการยึดครองของกลุ่มชีอะห์ ก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนประกอบข้อกล่าวหา ซ้ำยังยอมรับว่าในระยะเกือบปีที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บเพียง 16 คนที่บางส่วนเท่านั้นที่เสียชีวิตจากระเบิดรุนแรงที่ตนเองอ้างถึง
องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International – AI) แถลงวันจันทร์ (23 พฤษภาคม) อ้างว่า ชาวเยเมนที่ถูกฆ่าหรือทำให้พิการด้วยทุ่นระเบิดเหล่านี้มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติส่งทีมเก็บกู้ระเบิดเข้าไปช่วยเคลียร์พื้นที่ และขอให้กลุ่มพันธมิตรซาอุฯ ยุติการใช้อาวุธชนิดนี้
“ประเทศที่มีอำนาจต่อรองควรกดดันให้ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรหยุดใช้ระเบิดดาวกระจาย ซึ่งเป็นอาวุธที่นานาชาติคว่ำบาตร และสามารถฆ่าคนโดยไม่เลือก”
กองทัพซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรอาหรับได้ส่งเครื่องบินเข้าช่วยปลดปล่อยเยเมนจากการยึดครองของกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ที่มีอิหร่านอยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2015 โดยกลุ่มชีอะห์หวังใช้เยเมนเป็นฐานในการแพร่ขยายศาสนาชีอะห์เข้าไปในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
อย่างไรก็ตาม เครื่องบินขับไล่ของกลุ่มพันธมิตรซาอุฯ ถูกองค์กรดังกล่าวซึ่งใช้ข้อมูลภาพถ่าย และการรายงานข่าวจากกลุ่มกบฎชีอะห์กล่าวหากลุ่มพันธมิตรว่าเป็นต้นเหตุให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ล้มตายเป็นจำนวนมาก และยังนำอาวุธร้ายแรงอย่างระเบิดดาวกระจายมาใช้
นิรโทษกรรมฯซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอนระบุว่า ครอบครัวชาวเยเมนที่เดินทางกลับไปยังบ้านเรือนของตนทางตอนเหนือของประเทศหลังจากที่มีประกาศหยุดยิงเมื่อเดือน มีนาคม กำลังเสี่ยงต่อการบาดเจ็บรุนแรง หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต
“แม้การสู้รบจะยุติลง แต่ชีวิตของพลเรือนเยเมน รวมถึงเด็กๆ ยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะที่ๆ พวกเขากลับไปก็คือเขตทุ่นระเบิดดีๆ นี่เอง” ลามา ฟากิห์ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายวิกฤตการณ์ของเอไอ ระบุ
“พวกเขาไม่อาจมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย จนกว่าระเบิดดาวกระจายและระเบิดชนิดอื่นๆ ที่ตกค้างอยู่ในดินรอบๆ บ้านและไร่นาของพวกเขาจะถูกเก็บกู้”
เจ้าหน้าที่องค์กรดังกล่าวซึ่งอ้างว่าเข้าไปปฏิบัติภารกิจในภาคเหนือของเยเมนร่วมกับกลุ่มกบฎชีอะห์ พบหลักฐานบ่งชี้ว่าพันธมิตรซาอุฯ ใช้ระเบิดดาวกระจายที่ผลิตในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และบราซิล ทั้งยังรายงานเข้ามาด้วยว่า มีพลเรือนที่บาดเจ็บจากระเบิดทำลายร้ายแรงดังกล่าวเพียง 16 คน โดยบางส่วนเสียชีวิต ในช่วงกรกฎาคม 2015 – เมษายน 2016
ชาวเยเมนร้อยละ 82 กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน เนื่องจากผลของสงครามที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6,400 คน และทำให้มีผู้พลัดถิ่นฐานอีกราว 2.8 ล้านคน โดยพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิต และต้องอพยพสูงสุดในพื้นที่ตอนกลาง และตอนใต้ หลังกลุ่มกบฎชีอะห์บุกเข้าปล้นฆ่าพื้นที่ของชาวมุสลิมในเยเมน
