ความสงบกลับมา สั่งห้ามขายประทัด-ดอกไม้ไฟช่วงรอมฎอน

แม่ทัพภาค 4 เข้มสั่งห้ามซื้อขายดอกไม้ไฟ-ประทัดทั่วชายแดนใต้ช่วงรอมฎอน ชาวบ้านขานรับหวังปฏิบัติศาสนกิจได้เต็มที่ ไม่มีเสียงดังรบกวน ด้านรอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สั่งบูรณาการทุกภาคส่วนป้องกันเหตุรุนแรง ตั้งเป้า 7 เมืองเศรษฐกิจปลอดเสียงระเบิด

พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ออกคำสั่งประกาศที่ 34/2559 เรื่อง ห้ามซื้อ ขาย ใช้ ดอกไม้เพลิงทุกชนิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน-12 กรกฎาคม 2559 หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยห้วงเวลาที่ประกาศห้ามซื้อ ขาย ใช้ดอกไม้เพลิง ตรงกับช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม

พล.ท.วิวรรธน์ กล่าวว่า คณะกรรมการอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความประสงค์ให้เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่ศาสนิกปฏิบัติธรรมอันบริสุทธิ์ จึงขอให้หน่วยงานความมั่นคงกวดขันในการจุดดอกไม้เพลิง ประทัดและสิ่งเทียมที่ทำให้เกิดเสียงดังในช่วงเดือนรอมฏอน ซึ่งถือเป็นเดือนแห่งการทำบุญ

“จึงขอให้ร้านค้างดจำหน่วยดอกไม้เพลิงทุกชนิดในช่วงเดือนรอมฎอน” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

สั่งป้อง 7 เมืองเศรษฐกิจปลอดเสียงระเบิด

พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า ข้อกังวลก่อนเข้าสู่ห้วงเดือนรอมฎอนในแง่ของการป้องกันเหตุรุนแรงนั้น ฝ่ายความมั่นคงเน้นให้ถนนต้องมีความปลอดภัย จุดตรวจ จุดสกัดให้ปรับเป็นจุดอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน ส่วนมาตรการการควบคุมพื้นที่ยังจำเป็นและสำคัญ ต้องสร้างพื้นที่ให้ปลอดภัย วิเคราะห์พื้นที่หมู่บ้านใดที่ผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้เป็นฐานดำรงตนในหมู่บ้านเพื่อเตรียมการก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้เกาะติดมวลชนในหมู่บ้านไม่ให้เข้าไปดำรงตนอยู่ได้ เพื่อป้องปรามมวลชนให้หยุดให้การสนับสนุน

นอกจากนั้นเรายังตรวจพบการเคลื่อนย้ายสารตั้งต้นประกอบวัตถุระเบิดตลอดเวลาในหมู่บ้านเหล่านี้ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ฉะนั้นจึงประมาทไม่ได้

“ทุกหน่วยได้ทบทวนในการป้องกัน 7 เมืองเศรษฐกิจ ต้องไม่ให้มีการระเบิดในห้วงเดือนรอมฏอน ทบทวนและกระตุ้นมาตรการอย่างชัดเจน และทำให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนเข้าใจ ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการป้องกัน เป็นหูเป็นตา ให้กับเจ้าหน้าที่ สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยครู แม้จะเป็นห้วงเดือนรอมฏอนก็ยังเข้มข้นต่อไป ครูและประชาชนชาวไทยพุทธจะต้องปลอดภัยด้วย” พล.ต.ชินวัฒน์ ระบุ

สำหรับ 7 เมืองเศรษฐกิจที่รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง ได้แก่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, อ.เมืองยะลา และ อ.เบตง จ.ยะลา, อ.เมืองปัตตานี, อ.เมืองนราธิวาส อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

ชาวบ้านเฮ-หวังปฏิบัติศาสนกิจสงบ

นายฮารง มะยิ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวว่า ปีที่แล้วกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้มีคำสั่งเคร่งครัดห้ามซื้อขายดอกไม้ไฟและประทัดที่มทำให้เกิดเสียงดังในช่วงเดือนรอมฏอน ทำให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติศาสนกิจในช่วงถือศีลอดได้อย่างสงบและสมบูรณ์ อีกทั้งยังทำให้เหตุการณ์รุนแรงลดลงอีกด้วย

“เป็นเรื่องดีมากที่ กอ.รมน.ให้ความสำคัญเรื่องนี้ เพราะปีที่แล้วคนมุสลิมทุกคนขอบคุณแม่ทัพกันทั้งนั้น เพราะทำให้คนแก่ๆ สามารถปฏิบัติธรรมได้โดยไม่ต้องตกใจกับเสียงดัง และไม่เกิดเหตุรุนแรง ปีนี้คิดว่าจะดีกว่าปีที่แล้ว” ผู้ใหญ่บ้านฮารง กล่าว

ขอบคุณ สำนักข่าวอิศรา

ความคิดเห็น

comments