ฝรั่งเศสและอังกฤษเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (UN) ส่งเครื่องบินเข้าไปโปรยสิ่งของบรรเทาทุกข์ในซีเรีย ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเตรียมเปิดประชุมเพื่อหารือวิกฤตการณ์และแนวทางช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ซึ่งยังคงถูกปิดล้อมมานานหลายเดือนแล้ว
ก่อนหน้านี้ นานาชาติได้ส่งความช่วยเหลือภาคพื้นดินเข้าไปยัง 2 เมืองในซีเรียซึ่งถูกกองกำลังฝ่ายชีอะห์ของบาชาร์ปิดล้อม และพลเรือนกำลังขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
ขบวนรถบรรเทาทุกข์เดินทางเข้าไปถึงเมืองดารายา (Daraya) เมื่อวันพุธ (1 มิถุนายน) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2012 ส่วนอีกขบวนหนึ่งก็ไปถึงเมืองโมดามิเยห์ (Moadamiyeh) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน มีนาคม
วิทาลีย์ เชอร์กิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ระบุว่า การจัดส่งความช่วยเหลือดังกล่าวถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่ดี พร้อมเสนอให้ระงับแผนโปรยสิ่งของบรรเทาทุกข์ทางอากาศเอาไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม ฟรองซัวส์ เดอลาตร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นในเดือนนี้ ระบุว่า เมืองและหมู่บ้านอีกหลายแห่งยังยากที่จะเข้าถึงได้ พร้อมตำหนิกองกำลังของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียที่ปิดกั้นการส่งความช่วยเหลือ
“รัฐบาลฝรั่งเศสขอให้องค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะโครงการอาหารโลก (World Food Programme – WFP) ส่งเครื่องบินเข้าไปโปรยสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ชาวบ้าน โดยเริ่มที่เมืองดารายา โมอามิเยห์ และมาฎอยะห์ เพราะพลเรือนและเด็กๆ ที่นั่นกำลังเสี่ยงต่อการหิวตาย” เดอลาตร์แถลงต่อสื่อมวลชน
ด้านอังกฤษก็ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเปิดประชุมฉุกเฉินในวันศุกร์ (3) เพื่อหารือแนวทางจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ชาวซีเรีย รวมถึงผลักดันให้มีการส่งเครื่องบินไปโปรยสิ่งของบรรเทาทุกข์ ตามที่กลุ่มสนับสนุนซีเรียนานาชาติ (International Syria Support Group – ISSG) ซึ่งมีสมาชิก 20 ประเทศ ได้ตกลงกันไว้เมื่อเดือนที่แล้ว
“สิ่งที่เราทำอยู่ถือว่าล่าช้าและน้อยเกินไป… ผมคิดว่าเราต้องเร่งผลักดันแผนการที่ ISSG ได้ตกลงไว้ คือโปรยสิ่งของบรรเทาทุกข์ทางอากาศ” แมทธิว ไรครอฟต์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำยูเอ็น ระบุ
ISSG ได้กำหนดกรอบเวลาให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปถึงพื้นที่ปิดล้อมทุกจุดภายในวันที่ 1 มิถุนายน และขอให้โครงการอาหารโลกเตรียมข้าวของเครื่องใช้สำหรับนำไปโปรยทางอากาศแก่ชาวบ้านหากขบวนรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ อย่างไรก็ดี ยังไม่แน่นักว่าระบอบชีอะห์บาชาร์จะยอมเปิดทางให้เครื่องบินนานาชาติเข้าไปส่งความช่วยเหลือได้หรือไม่
เชอร์คินชี้ว่า “การโปรยสิ่งของทางอากาศเป็นเรื่องยุ่งยาก และไม่ได้ผลเท่าที่ควร ดังนั้นผมคิดว่าเราควรจะใช้วิธีส่งความช่วยเหลือภาคพื้นดินไปก่อน”
จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ความช่วยเหลือที่ถูกนำไปมอบแก่ชาวซีเรียที่เมืองดารอยาและโมดามิเยห์นั้นยัง “ไม่เพียงพอ” และสหรัฐฯ ก็เห็นด้วยกับการใช้เครื่องบินโปรยสิ่งของจากทางอากาศ
สตัฟฟาน เดอ มิสตูรา ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติว่าด้วยปัญหาซีเรีย และ สตีเฟน โอเบรียน รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการด้านมนุษยธรรม จะหยิบยกเรื่องนี้มาเสนอต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นในวันศุกร์นี้ (3)
ข้อมูลจากยูเอ็นระบุว่า ยังมีชาวซีเรียประมาณ 592,000 คนติดอยู่ตามเมืองต่างๆ ซึ่งถูกปิดล้อม โดยส่วนใหญ่เป็นฝีมือทหารฝ่ายชีอะห์บาชาร์ อัลอัสซาด และอีก 4 ล้านคนกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ซึ่งยากจะเข้าถึง
กระบวนการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามกลางเมืองซีเรียต้องเจอทางตันอีกครั้งเมื่อเดือน เมษายน หลังฝ่ายชีอะห์บาชาร์ ที่มีรัสเซียหนุนหลัง ไม่เคยเคารพข้อตกลงหยุดยิง และไม่ยอมยุติการปิดล้อมประชาชนเพื่อบีบประชาชนให้อดตาย ทั้งที่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการเจรจาสันติภาพ จนทำให้ฝ่ายต่อต้านตัดสินใจวอล์กเอาท์เนื่องจากสหประชาชาติก็ไม่ใส่ใจในการบังคับให้กองกำลังชีอะห์ทำตามข้อตกลงเลย