น้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่มในวันอาทิตย์ (19 มิถุนายน) ทำให้ชาวอินโดนีเซียเสียชีวิตไม่ต่่ำกว่า 24 ราย สูญหายอีก 26 ราย โดยรัฐบาลของประธานาธิบดี วิโก วิโดโด แถลงว่า โคลนถล่มฝังชาวบ้านภายในที่พักทั้งเป็นหลังฝนตกหนักตั้งแต่วันเสาร์ (18) ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักตลอดทั่วจังหวัดชวากลาง
เอเอฟพีรายงานวันอาทิตย์ (19) ว่า ซุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ (Sutopo Purwo Nugroho) โฆษกหน่วยงานจัดการภัยพิบัติอินโดนีเซีย แถลงว่า เนื่องจากฝนตกหนักมาตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (18) ทำให้จังหวัดชวากลางเกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วทั้งจังหวัด “ข้อมูลความเสียหายเบื้องต้นที่แสดงให้เห็นในเหตุน้ำท่วมฉับพลัน และโคลนถล่มในจังหวัดชวากลางอยู่ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย สูญหายอีก 26 ราย”
ซึ่งภาพข่าวจากทางโทรทัศน์ท้องถิ่น เผยให้เห็นถึงชาวบ้านผู้ประสบภัยนั่งอยู่บนหลังคาของบ้านตัวเอง หลังจากที่น้ำมีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยตัวบ้านและรถยนต์ต่างจมอยู่ใต้ท้องน้ำสีน้ำตาลที่เชี่ยวกราก
เอเอฟพีรายงานต่อว่า ในส่วนพื้นที่ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นของจังหวัด ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเกิดโคลนถล่ม ที่กวาดทั้งรถราบนท้องถนน และรวมไปถึงเข้าทำลายบ้านชาวอินโดนีเซีย หลังภูเขาดินโคลน หินขนาดใหญ่ และน้ำไหลบ่าเข้ามาทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว
ซึ่งพบว่าในเขตหนึ่งมีคนถึง 5 คน ต้องถูกฝังทั้งเป็นภายในบ้านของพวกเขา ในขณะที่กองทัพดินโคลนได้ไหลบ่าเข้าหมู่บ้านแห่งนี้ และในอีกจุดหนึ่งพบว่า มีชาวอินโดนีเซียจำนวน 9 คน ต้องเสียชีวิตในขณะที่คนเหล่านี้กำลังที่จะนำซากปรักหักพังออกจากถนน
“และในทันทีที่ภูเขาโคลนได้เข้าถล่มทั้งตัวรถรา และผู้คนที่กำลังอยู่บนถนน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพ 9 รายอยู่ในที่จุดเกิดเหตุ” ซุโตโป กล่าวผ่านแถลงการณ์
และได้แถลงเพิ่มเติมว่า ในเวลานี้ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียกำลังอยู่ในพื้นที่ประสบภัยเพื่อค้นหาผู้สูญหายที่พบว่ามี่ไม่ต่ำกว่า 26 คน และได้มีการจัดตั้งศูนย์ผู้ประสบภัยชั่วคราวแล้ว
อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งที่น่าสนใจว่า เหตุการณ์โคลนถล่มไม่ใช่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในอินโดนีเซีย ถึงแม้ประเทศมากเกาะแห่งนี้ จะต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ และพายุฝนตกหนักก็ตาม ซึ่งในเดือนที่ผ่านมาพบนักเรียนชาวอินโดนีเซียที่ได้ไปพักผ่อนสถานพักตากอากาศชื่อดังในตะวันตกของประเทศต้องเสียชีวิตถึง 15 คน หลังจากเกิดเหตุดินถล่มขึ้นบริเวณที่ตั้งแคมป์ของพวกเขา