ธนาคารกลางแห่งชาติคาซัคสถาน (เอ็นบีเค) กว้านซื้อทองคำล็อตใหญ่มาถือครองเพิ่มเติมในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยใช้เงินมากกว่า 3.2 แสนล้านบาท ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐในภูมิภาคเอเชียกลางแห่งนี้ซึ่งมั่งคั่งไปด้วยทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดทอนความเสี่ยงจากผลกระทบของราคาพลังงานที่ตกต่ำในตลาดโลก
รายงานข่าวซึ่งอ้างการเปิดเผยของแบงก์ชาติคาซัคสถาน ระบุว่า ในเดือนที่แล้วได้ทำการกว้านซื้อทองคำมาถือครองเพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่า 9,130 ล้านดอลลาร์ (ราว 321,770 ล้านบาท) ถือเป็นการเพิ่มจำนวนทองคำสำรองที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ทางเอ็นบีเคใช้เงิน 7,790 ล้านดอลลาร์ในการซื้อทองคำจากตลาดโลก
ในคำแถลงของธนาคารกลางแห่งคาซัคสถาน อากิเชฟ ดานิยาร์ ตัลกาโตวิช ซึ่งเป็นผู้ว่าการฯ ยอมรับว่า การตัดสินใจกว้านซื้อทองคำสำรอง มาถือครองไว้เพิ่มเติมของแบงก์ชาติคาซัคสถานในคราวนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการคลังของประเทศ และลดความผันผวนในระยะยาวจากผลกระทบของราคาพลังงานในตลาดโลกที่อยู่ในช่วง “ขาลง” และส่งผลกระทบต่อรายได้ของคาซัคสถาน ที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่จากภูมิภาคเอเชียกลาง
การกว้านซื้อทองคำมาถือครองเพิ่มเติมล็อตล่าสุด ส่งผลให้ในเวลานี้ทางการคาซัคสถานมีทองคำอยู่ในความครอบครองแล้วมากกว่า 228.34 ตัน ตามข้อมูลล่าสุดของสภาทองคำโลก (World Gold Council) ซึ่งระบุว่า ทองคำจำนวนมหาศาลดังกล่าวมีสัดส่วนคิดเป็น 29.5 เปอร์เซ็นต์ของทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมดของคาซัคสถานในช่วงครึ่งแรกของปี 2016 นี้
