นายกรัฐมนตรีบินาลี ยิลดิริม แห่งตุรกี แถลงวันพุธ (29 มิถุนายน) ว่า จากหลักฐานเบื้องต้นเชื่อว่ากลุ่มติดอาวุธดาอิช น่าจะอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายถล่มสนามบินอิสตันบูล 3 ลูกซ้อนเมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตขยับเพิ่มขึ้นเป็น 41 ราย บาดเจ็บ 239
“จากข้อมูลล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 36 รายแล้ว” ยิลดิริม บอกกับสื่อมวลชนขณะเดินทางไปตรวจดูจุดเกิดเหตุ
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตขยับเพิ่มขึ้นเป็น 41 ราย โดยเป็นชาวต่างชาติ 37 ราย เป็นบุคคลสองสัญชาติ 3 ราย ระบุสัญชาติได้แล้ว 10 รายประกอบด้วย ซาอุดิอาระเบีย 5 คน อิหร่าน 3 คน อิรัก และยูเครนชาติละ 1 คน ผู้บาดเจ็บ 239 ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว 109 คน
“หลักฐานที่มีพุ่งเป้าไปที่ดาอิช (Daesh)” เขากล่าว โดยใช้ชื่อย่อในภาษาอาหรับของ ISIL
นายกฯ ตุรกียอมรับว่า มีผู้บาดเจ็บอีก “จำนวนมาก” จากเหตุคนร้าย 3 คนใช้ปืนไรเฟิลอัตโนมัติกราดยิงใส่ผู้โดยสาร ก่อนจะกดระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณทางเข้าสนามนานาชาติอตาเติร์กของนครอิสตันบูล ขณะนี้ทางการตุรกียังไม่ระบุสัญชาติของมือระเบิดทั้งสาม
คนร้ายกลุ่มนี้นั่งแท็กซี่เข้าไปยังสนามบิน แต่ ยิลดิริม ยืนยันว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยของสนามบินอตาร์เติร์กซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่คับคั่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปมีความเข้มงวดดีพอ
ทั้งนี้ สนามบินอตาเติร์กจะเปิดให้เครื่องบินขึ้น-ลงได้ตามปกติตั้งแต่เวลา 03.00 น. (07.00 น. ตามเวลาในไทย)