ผู้แทน 4 ฝ่ายร้อง “อิสราเอล” หยุดก่อสร้างนิคมชาวยิว-ขวางการพัฒนาของปาเลสไตน์

อิสราเอลควรยุติการสร้างนิคม ขวางการพัฒนาของปาเลสไตน์ และต้องยุติสงวนที่ดินที่ชาวปาเลสไตน์ต้องการสร้างรัฐในอนาคตไว้ให้สำหรับชาวอิสราเอลใช้แต่เพียงผู้เดียว กลุ่มตัวแทน 4 ฝ่ายเพื่อสันติภาพในตะวันออกกลาง (Quartet) ชี้แนะในร่างรายงานฉบับหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งตาคอยมานาน รอยเตอร์ระบุ

ร่างรายงานฉบับนี้ของกลุ่มประเทศที่สนับสนุนกระบวนสันติภาพในตะวันออกกลาง ประกอบด้วย สหรัฐฯ รัสเซีย สหภาพยุโรป และองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า นโยบายของอิสราเอลเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาของ 2 รัฐนี้

“สิ่งนี้ทำให้เกิดข้อกังขาที่มีเหตุมีผลเกี่ยวกับความตั้งใจระยะยาวของอิสราเอลซึ่งบวกกับถ้อยแถลงของรัฐมนตรีอิสราเอลบางคนที่ว่าไม่ควรมีรัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้น” ร่างรายงานนี้ระบุ

หนึ่งวันก่อนการเลือกตั้งอิสราเอลในปี 2015 นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า จะไม่มีรัฐปาเลสไตน์ในสมัยของเขา ก่อนที่จะกลับคำพูดไม่กี่วันหลังจากนั้นและยอมรับเป้าหมายของการแก้ปัญหาสองรัฐอีกครั้ง

ทูตประจำภูมิภาคตะวันออกกลางของยูเอ็น นิกโคเลย์ มลาดีนอฟ บรรยายสรุปรายงานดังกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเมื่อวันพฤหัสบดี (30 มิถุนายน) และเขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่ามันได้ถูกเสนอต่อสมาชิกของ Quartet เพื่อผ่านความเห็นชอบเป็นครั้งสุดท้ายและน่าจะถูกเผยแพร่ในวันศุกร์ (1 กรกฎาคม)

ร่างรายงานฉบับนี้ระบุว่า อิสราเอลถือสิทธิ์ขาดการใช้ 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ซี (Area C) ซึ่งประกอบด้วย 60 เปอร์เซ็นต์ของเขตเวสต์แบงค์และที่ดินการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติ และที่ดินสงวนส่วนใหญ่ ของชาวปาเลสไตน์ ทั้งที่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อมติที่ 242 ของสหประชาชาติที่กำหนดให้อิสราเอลต้องคืนดินแดนที่ยึดครองไปหลังสงคราม 6 วันในปี 1967 ให้กับชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด แต่สหประชาชาติไม่เคยดำเนินการต่ออิสราเอลในการบังคับใช้มติดังกล่าวแต่อย่างใด

“การถ่ายโอนอำนาจและความรับผิดชอบให้แก่หน่วยงานปกครองพลเรือนของปาเลสไตน์ในพื้นที่ C มากขึ้นตามข้อผูกมัดในข้อตกลงก่อนหน้านี้ได้ถูกทำให้หยุดชะงักและทำในทางตรงกันข้าม กระบวนการดังกล่าวควรถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาสองรัฐรุดหน้าและป้องกันไม่ให้รัฐใดรัฐหนึ่งเข้าถือครอง” ร่ายรายงานฉบับนี้ระบุ

ร่างรายงานฉบับนี้ระบุว่า ชาวอิสราเอลอย่างน้อย 570,000 คนกำลังอยู่อาศัยในนิคมต่างๆ ต้องออกจากพื้นที่ที่เข้าอยู่อาศัยโดยขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ

รายงานระบุว่า เคยมีการอนุญาตให้ก่อสร้างที่พักอาศัยสำหรับชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ C เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อปี 2014 ขณะที่ในปี 2015 ดูเหมือนว่าจะไม่มีการอนุญาตใดๆ อีกเลย

ชาวปาเลสไตน์ต้องการรัฐเอกราชในเขตเวสต์แบงก์ กาซา และเยรูซาเลมตะวันออก พื้นที่ซึ่งอิสราเอลเข้ายึดครองในสงครามปี 1967 การเจรจาสันติภาพรอบล่าสุดพังลงในเดือนเมษายนปี 2014 หลังอิสราเอลไม่ยอมดำเนินการตามแผนสันติภาพ และความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ได้พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้

ความคิดเห็น

comments