สหรัฐอเมริกาเปิดฉากโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายที่อ้างว่าเป็นกลุ่ม ดาอิช หรือ ISIL ในลิเบียเมื่อวันจันทร์ (1 สิงหาคม) ตามคำขอของรัฐบาลลิเบียที่ได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็น ซึ่งสหรัฐฯระบุว่า เป็นการเริ่มต้นปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวให้ออกจากพื้นที่ยึดครองในเมืองซีราเต ที่ประเมินว่าจะใช้เวลาในปฎิบัติการที่ยาวนาน
นายกรัฐมนตรี ฟาเยซ เซราจ ของลิเบีย แถลงผ่านสถานีทีวีของรัฐว่า การโจมตีทางอากาศระลอกแรกเริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันจันทร์ บริเวณสถานที่เฉพาะเจาะจงบางจุดในเมืองซีราเต ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงต่อกองกำลังของกลุ่ม ISIL
ทั้งนี้ กองกำลังที่เป็นพันธมิตรกับเซราจต่อสู้กับ ISIL ในเมืองเซิร์ต บ้านเกิดของมูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำเผด็จการของลิเบีย มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
กลุ่มที่อ้างตัวเองว่าเป็นเครือข่ายของ ISIL ได้ปรากฎตัวแบบไม่มีที่มาที่ไปในลิเบียเมื่อปี 2014 และได้เข้ายึดเมืองซีราเตมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นนอกซีเรียและอิรัก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ISIL กำลังถูกล้อมอยู่ในพื้นที่ไม่กี่ตารางกิโลเมตรกลางเมืองดังกล่าว แต่ก็ยังคงมีกำลังที่แข็งแกร่ง และสหรัฐฯประเมินว่าต้องใช้เวลาที่ยาวนานในการปราบกลุ่มดังกล่าว
เซราจเผยว่า รัฐบาลปรองดองแห่งชาติของลิเบีย (จีเอ็นเอ) ตัดสินใจเริ่มเข้าไปมีส่วนร่วมในกลุ่มพันธมิตรนานาชาติเพื่อต่อต้าน ISIL และขอให้อเมริกาโจมตีทางอากาศต่อ ISIL ในลิเบีย พร้อมยืนยันว่า ปฏิบัติการนี้จะมีกำหนดเวลาจำกัดและครอบคลุมพื้นที่เฉพาะเมืองซีราเตเท่านั้น ขณะที่การสนับสนุนภาคพื้นดินของนานาชาติจะจำกัดเฉพาะส่วนเทคนิคและการส่งกำลังบำรุง
ทั้งนี้ รัฐบาลจีเอ็นเอเกิดขึ้นจากข้อตกลงที่มีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เป็นตัวกลางเมื่อเดือนธันวาคม เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลสองฝ่ายที่เป็นปรปักษ์กัน รวมทั้งกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลเหล่านี้ กระนั้น จีเอ็นเอยังมีปัญหาในการใช้อำนาจและการระดมการสนับสนุนจากฝักฝ่ายต่างๆ ทางตะวันออกของประเทศ
ด้านโฆษกเพนตากอน ปีเตอร์ คุก บอกว่า การโจมตีทางอากาศเมื่อวันจันทร์ ซึ่งได้รับอนุมัติจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา สามารถทำลายรถถังและยานยนต์ 2 คันของ ISIL ที่เป็นภัยคุกคามต่อพันธมิตร พร้อมระบุว่า การโจมตีในอนาคตจะเป็นการประสานงานกับจีเอ็นเอ และต้องได้รับอนุมัติจากผู้บัญชาการกองกำลังอเมริกันในแอฟริกา เพื่อช่วยให้จีเอ็นเอมีความคืบหน้าทางยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน อิริก ชูลซ์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ความช่วยเหลือที่ให้ต่อลิเบียจะจำกัดที่การโจมตีทางอากาศและการแบ่งปันข้อมูล
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ ถือเป็นการโจมตีทางอากาศต่อ ISIL ในลิเบียครั้งที่ 3 ของสหรัฐฯ แต่เจ้าหน้าที่อเมริกันตั้งข้อสังเกตว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการที่กินระยะเวลายาวนานกว่าการโจมตีครั้งก่อนๆ
การโจมตีทางอากาศในลิเบียของอเมริกา ซึ่งเป็นที่รับรู้ครั้งที่แล้วคือ การโจมตีค่ายฝึกของ ISIL ในเมืองซาบราทาทางตะวันตก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
แม้ไม่ครอบคลุมการใช้ทหารราบ นอกเหนือจากกองกำลังพิเศษกลุ่มเล็กๆ ที่สลับสับเปลี่ยนเข้า-ออกจากลิเบีย และโดรนในการรวบรวมข่าวกรอง แต่การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ถือเป็นการเปิดแนวรบใหม่ในสงครามต่อต้าน ISIL และสิ่งที่เจ้าหน้าที่อเมริกันถือว่า เป็นองค์ประกอบที่อันตรายที่สุดนอกซีเรียและอิรัก
ทั้งนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมการโจมตีทางอากาศเพื่อบังคับใช้เขตห้ามบินในลิเบียซึ่งช่วยโค่นล้มกัดดาฟีจากอำนาจ แต่หลังจากนั้น สถานการณ์ในลิเบียก็วุ่นวายอย่างหนัก และโอบามาให้สัมภาษณ์นิตยสารดิ แอตแลนติก เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า การแทรกแซงครั้งนั้น “ไม่ได้ผล”
สำหรับครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า มีความท้าทายไม่แพ้กัน
เฟรเดอริก เวห์รีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านลิเบียจาก “คาร์เนกี เอนดาวเมนต์ ฟอร์ อินเตอร์เนชันแนล พีซ” ในวอชิงตันที่เคยไปคลุกคลีกับนักรบในซีราเตนาน 3 วันเมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่า กองกำลังท้องถิ่นในลิเบียที่ต่อสู้กับ ISIL กระจัดกระจายและแตกแยก รวมทั้งไม่มีศูนย์กลางการบัญชาการ ขณะที่การโจมตีทางอากาศของกองทัพลิเบียขาดแคลนทั้งอาวุธและเทคโนโลยี เท่ากับว่า แม้ระดมโจมตีถี่มากแต่ก็ขาดความแม่นยำในการทำลายเป้าหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อเมริกันและลิเบียประเมินว่า ยังมีนักรบ ISIL ในซีราเตอยู่ในหลักร้อยคน