พลเรือนอย่างน้อย 90 คนถูกฆ่าตายชั่วข้ามคืนจากการโจมตีทางอากาศของกองกำลังชีอะห์ บาชาร์ อัล-อัสซาด และกองกำลังรัสเซียทั่วซีเรียโดยผู้เสียชีวิตมากที่สุดเกิดขึ้นในอเลปโป ดินแดนที่พลเรือนกว่า 300,000 ถูกปิดล้อมจากกองกำลังชีอะห์ และกองกำลังรัสเซีย
การโจมตีทางอากาศยังได้มีเป้าหมายที่โรงพยาบาลสำหรับเด็ก และสตรี แห่งเดียวของเมือง Kafr Hamra ฆ่าแพทย์ 2 คนของโรงพยาบาล โดยมีพยาบาลถูกฆ่าตายด้วย ขณะที่ประชาชน 10 ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากซากของอาคารที่พังถล่มจากการโจมตี ตามรายงานของเจ้าหน้าที่อาสาสมัคบรรเทาสาธารณภัย
นอกจากนี้การโจมตีทางอากาศยังยังมีเป้าหมายที่ตลาดใกล้เมือง Urem al-Kubra ฆ่าพลเรือนอย่างน้อย 6 คน ตามรายงานขององค์กรสังเกตุการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR)
Urem Al-Kubra อยู่บนถนนที่เชื่อมโยงไปยังอเลปโป ทางตอนเหนือของจังหวัด อิดลิป ที่ปกครองโดยฝ่ายต่อต้านซีเรีย ซึ่งยังคงเกิดการโจมตีด้วยระเบิดเกิดขึ้นตลอดเวลา
“นี่เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตที่สูงที่สุดที่เราได้พบในช่วงวันที่ผ่านมา” Reza Sayah ผู้สื่อข่าวอัล-ญะซีเราะห์ รายงานจากเมืองกาซิแทป ทางใต้ของตุรกี
รัสเซียประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะหยุดโจมตีในอเลปโปให้วันละเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น สหรับการเปิดโอกาสให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่ได้ แต่ทางสหประชาชาติแย้งว่าเวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือพลเรือนในอเลปโปได้
ผู้สื่อข่าวอัล-ญะซีเราะห์รายงานว่า จากสถิติการโจมตีและการเสียชีวิตที่พุ่งสูงทำให้สหประชาชาติ และนานาชาติเรียกร้องให้มีการหยุดโจมตีเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือเข้าในพื้นที่ได้ แต่ดูเหมือนว่าข้อเรียกร้องเหล่านี้จะยังไม่ถูกตอบรับ
ขณะที่การสู้รบในเมือง Manbij จังหวัดอเลปโป กลุ่ม ISIL ได้จับตัวประชาชน 2,000 คน ใกล้กับ al-Sirb ไปเป็นตัวประกันขณะหลบหนี้ออกจากเมือง หลังจากกลุ่มนักรบประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ที่สหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนได้บุกเข้ามาในพื้นที่ยึดครองของ ISIL ก่อนที่จะมีรายงานว่าพลเรือนทั้งหมดถูกปล่อยตัวในภายหลัง