ภาค ปชช.ออกแถลงการณ์ 18 ข้อ ผ่านรอง ผวจ.นราธิวาส ทบทวนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะกระทบวิถีชีวิตอัตลักษณ์พื้นที่
เมื่อวันอังคาร (16 สิงหาคม) ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ตัวแทนภาคประชาชน จำนวน 50คน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ภายใต้การนำของ นายวิกรม ประชุมกาเยาะมาต นายมะสูดิง วามะ และ น.ส.นูรหม๊ะ วี ได้เข้าพบ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รอง ผวจ.นราธิวาส เพื่อยื่นแถลงการณ์ 18 ข้อ ผ่าน นายไกรศร รอง ผวจ.นราธิวาส และตัวแทน ศอ.บต.และ กอ.รมน.ภาค 4 เพื่อเสนอต่อไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อทบทวนผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส สามเหลี่ยมแห่งความมั่นคงและยั่งยืน
ซึ่งข้อแถลงการณ์ 18 ข้อหลักได้กล่าวถึงผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน วัฒนธรรมอันดีงาม และมีมาตรการควบคุมดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง รวมทั้งข้อเสนอแนะให้มีการจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี และลดสภาวะคนว่างงานให้มีงานทำมากขึ้น โดยจ่ายค่าแรงงานขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ทางจังหวัดนราธิวาส อนุมัติแต่งตั้งตัวแทนภาคประชาชนชุดนี้เป็นคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส เพื่อให้คณะกรรมการชุดนี้มีส่วนร่วมในการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ด้วย
ด้าน นางสุจิตรา สุทธิพงศ์ ประธานคณะทำงานเสริมสร้างและพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง เปิดเผยว่า การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น ชาวบ้านเขาห่วงใยว่าวัฒนธรรมของเขาจะถูกกลืนจากการพัฒนา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่เดิม ทั้งชุมชนวิถีชีวิต และศาสนา และเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติที่อาจจะไม่เพียงพอถ้าไม่มีการควบคุม และการจัดหาไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่สามารถตัดสินใจร่วมกับภาครัฐในการพัฒนาต่างๆ คือ นโยบายต่างๆ ของรัฐเราไม่สามารถที่จะก้าวล่วงได้ แต่ต้องได้ผลประโยชน์ทั้ง 3 ฝ่าย แต่อย่าให้ประชาชนได้รับผลกระทบก็แล้วกัน ส่วนในเรื่องข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับเขตพัฒนาเขตพื้นที่พิเศษ แบ่งเป็นคนพื้นที่รับรู้ข่าวสาร 2 รูปแบบ ชุดแรก ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รับรู้ข่าวสารได้เร็ว แต่รูปแบบที่ 2 ชาวบ้าน และกลุ่มสตรีมีจำนวนมากไม่รู้เรื่องข้อมูลข่าวสารเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษ จ.นราธิวาส การมีส่วนร่วมของประชาชน จึงถือว่าน้อยมาก