อดีตประธานาธิบดีทรราช อับดุลลอฮฺ ซอและห์ ที่เคยถูกประชาชนขับไล่ ในฐานนะแกนนำร่วมกับกลุ่มชีอะห์ในการก่อกบฎยึดครองแผ่นดินของชาวเยเมน อธิบายถึงข้อเสนอของเขาในการให้รัสเซียมาใช้ดินแดนเยเมนเป็นฐานทัพว่า “รัสเซียเป็นญาติที่ใกล้ชิดกับเรา”
อดีตประธานาธิบดีทรราชที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามการประท้วงของประชาชนที่ออกมาเดินขบวนขับไล่เขาจนถูกประเทศกลุ่มอ่าวอาหรับต้องขอให้เขาก้าวลงจากอำนาจ แต่ล่าสุดได้จับมือกับกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ ที่มีอิหร่านอยู่เบื้องหลังในการใช้กำลังยึดครองแผ่นดินของชาวเยเมนมานานนับมีออกมาเสนอว่าจะสนับสนุนให้รัสเซียใช้เประเทศเยเมนเป็นฐานในการต่อสู้กับสิ่งที่เรียกว่ากลุ่มหัวรุนแรง
ซอและห์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Russia-24 เมื่อวันอาทิตย์ (21 สิงหาคม) ว่ารัสเซียเป็น “ญาติที่ใกล้ชิดกับพวกเรา”
“เราจะยื่นมือของเราไปยังรัสเซีย เรามีข้อตกลงกับรัสเซียตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต … เราพร้อมที่จะเปิดใช้งานสนธิสัญญาและข้อตกลงเหล่านี้ที่อยู่ระหว่างเราและสหภาพโซเวียต” ซาและห์กล่าว
“เราเห็นด้วยกับหลักการซึ่งเป็นการต่อสู้กับความคลั่งไคล้ … เรายื่นมือของเรา และนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ การประชุม และสนธิสัญญาที่เรามีต่อพวกเขาในฐานทัพของเรา ในสนามบินของเรา และในท่าเรือของเรา ทั้งหมดพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้กับเพื่อสหพันธรัฐรัสเซีย”เขากล่าว
ซอและห์จับมือกับกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ ที่มีอิหร่านหนุนหลัง ในการใช้กำลังบุกเข้ายึดครองพื้นที่ต่างๆของเยเมน รวมทั้งกรุงซานาเมืองหลวงเยเมนในปี 2014 บีบให้ประธานาธิบดี อับดุลรับบู มานซูร์ ฮาดี ต้องล่าถอยไปตั้งรับในเมืองทางใต้ของเยเมน และขอความช่วยเหลือไปยังสหประชาชาติ และกองกำลังชาติมุสลิม
ในเดือนมีนาคม 2015 ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรชาติมุสลิม ได้เริ่มต้นปฎิบัติการทางอากาศโจมตีเป้าหมายเพื่อขับไล่กลุ่มกบฎชีอะห์ออกจากพื้นที่ หลังรัฐบาลเยเมนขอความช่วยเหลือเร่งด่วนไปยังสหประชาชาติ
ในปี 2015 รัสเซียงดออกเสียงในการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงซึ่งกำหนดห้ามการดำเนินการที่ผิดกฎหมายของกองกำลังติดอาวุธชีอะห์ฮูธีย์
นอกจากนี้รัสเซียยังได้ใช้สิทธิวีโต้ร่างแถลงของสหประชาชาติในการประณามกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ และอดีตประธานาธิบดีอับดุลลอฮฺ ซอและห์ ต่อปฎิบัติการใช้กำลังยึดครองเยเมน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากด้วย
