นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (27 สิงหาคม) ระหว่างการประชุมสุดยอดในกรุงไนโรบีของเคนยา โดยระบุ ทั้งรัฐบาลและเอกชนญี่ปุ่นจะทุ่มเงินรวมกันกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับการลงทุนในทวีปแอฟริกา ภายในปี 2018 ซึ่งนับรวมถึงเงินจำนวน 10,000 ล้านดอลลาร์ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของแอฟริกา
นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านการพัฒนาระหว่างญี่ปุ่น – แอฟริกา หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า การประชุม Tokyo International Conference on African Development (TICAD) ครั้งที่ 6 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปแอฟริกา หลังจากที่การประชุม 5 ครั้งก่อนหน้านี้ ล้วนจัดในญี่ปุ่นทั้งสิ้น
“นี่คือการลงทุนครั้งสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่ออนาคตของทวีปแอฟริกาแห่งนี้” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมเป็นเวลา 2 วัน ที่มีบรรดาผู้นำคนสำคัญของแอฟริกา อย่างประธานาธิบดี อูฮูรู เคนยัตตา แห่งเคนยา และประธานาธิบดี จาค็อบ ซูมา แห่งแอฟริกาใต้ เข้าร่วม เช่นเดียวกับผู้นำของอีกกว่า 30 ชาติในแอฟริกา
รายงานข่าวระบุว่า ในความเป็นจริงแล้ว การประชุมสุดยอดด้านการพัฒนาระหว่างญี่ปุ่น กับแอฟริกา นี้ มีองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น), องค์การสหภาพแอฟริกา (เอยู), ธนาคารโลก และ รัฐบาลญี่ปุ่น ร่วมกันจัดขึ้น
การประชุมในเวทีนี้ถูกจัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการเพิ่มปริมาณการค้าและความช่วยเหลือต่อแอฟริกา ขณะที่นักวิเคราะห์ มองว่า เวทีนี้ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้ในการต่อกรกับจีนที่ขยายบทบาทและอิทธิพลเข้ามายังกาฬทวีปแห่งนี้อย่างแข็งขัน ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของโลก และเป็นชาติที่กำลังหิวกระหายทางด้านพลังงานและทรัพยากร มีมูลค่าการค้าขายกับชาติในแอฟริกาในปี 2015 ที่ผ่านมา สูงถึง 179,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับแอฟริกาในปีที่แล้ว กลับมีสัดส่วนราว 24,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น