เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยารับมือน้ำสูงขึ้นอีก

ฝนที่ตกชุกกระจายและตกหนักทางตอนบน ส่งผลให้น้ำเหนือยังคงไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง เตือนพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รับมือน้ำเอ่อล้นตลิ่ง

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน จากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่าน นั้น ทำให้มีปริมาณน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด(22 ก.ย. 59)ระดับน้ำที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ ต่ำกว่าตลิ่ง 3.69 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,554 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(รับได้สูงสุด 3,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำหลากจากแม่น้ำสะแกกรัง ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อีกทั้ง มีฝนตกชุกกระจายทั่วทั้งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำให้ไม่สามารถรับน้ำเข้าระบบชลประทานได้เต็มศักยภาพ จึงทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มมากขึ้น

โดยล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น.(22 กันยายน) มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาสูงถึง 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะกระทบต่อพื้นที่ริมแม่น้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทลงมา มีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 60 – 80 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำบริเวณอ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร

กรมชลประทาน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกคันกั้นน้ำให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วย

ความคิดเห็น

comments