สตม.บินโอมานบุกช่วย 21 สาวไทย โดนบังคับค้าประเวณี

ผบช.สตม. แถลงผลบุกช่วยเหยื่อ 21 สาวไทย จับผู้ต้องหาได้ 3 คน คาอพาร์ตเมนต์ หลังหางานผ่านเฟซบุ๊กอ้างได้รายได้ดี กลับถูกหลอกไปค้าประเวณีเยี่ยงทาสที่โอมาน

เมื่อวันอาทิตย์ (25 กันยายน) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พล.ต.ต.ชาติชาย แตงเอี่ยม พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผบก.ตม.2 พ.ต.อ.จันทร์ชัย แดงประเสริฐ ผกก.ด่าน ตม.ทอ.กรุงเทพ และเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ หลอกหญิงไทยค้าประเวณีที่ตะวันออกกลาง จำนวน 5 ราย

ประกอบด้วย น.ส.สุภานัน หรือ เก๋ ยิ่งพิมาย อายุ 29 ปี น.ส.ณัฎฐณิชา หรือ ขนุน คงประเสริฐ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดา ที่ 1781, 1785/2559 ลงวันที่ 15 ก.ย. 59 ในข้อหา “สมคบกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นและเป็นผู้จัดหา” น.ส.ปาลิดา หรือ ลูกปลา กลีบบัว อายุ 26 ปี โดยสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ย่านมีนบุรี นายโอมาร์ และ นายหนวด ไม่ทราบชื่อ – นามสกุล และสัญชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัว

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายความมั่นคงของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เข้มงวดในการต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะคนไทยที่ถูกหลอกไปขายตัว หรือบังคับใช้แรงงานต่าง ๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 59 ทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลมาว่า มีหญิงไทยจำนวน 3 คน ที่ถูกหลอกไปขายตัวในกรุงมัสกัด ประเทศโอมาน โดยหญิงไทยได้ขอความช่วยเหลือจากชาวอินเดียที่ไปเที่ยว ก่อนจะพากันหลบหนีและเข้าขอความช่วยไปยังสถานทูตไทย จนสามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ จากนั้นจึงได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสตม. จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจโอมาน เพื่อวางแผนเข้าจับกุมและช่วยเหลือหญิงไทยดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวว่า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปยังประเทศโอมาน และวางแผนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโอมาน จนทราบสถานที่กักขังเหยื่อหญิงไทย ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์สูง 6 ชั้น จำนวน 2 อาคาร โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติโอมานได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจโอมานกว่า 100 นาย ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. บุกทลายเข้าช่วยเหลือหญิงไทยที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีได้จำนวน 21 คน และสามารถจับกุมคนร้ายได้ 3 คน ส่วนอีก 2 คนนั้นเป็นชาย (ไม่ทราบสัญชาติ) สามารถหลบหนีไปได้

พล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งจากการสอบถามเหยื่อที่ถูกหลอกไปค้าประเวณี ทราบว่า ทางผู้ต้องหาจะเปิดเฟซบุ๊กชื่อ “พัทยา หางาน+รับสมัครงาน” เพื่อรับสมัครหญิงไทยไปทำงานในต่างประเทศ โดนหลอกว่าให้ไปเป็นหมอนวดในร้านสปา พร้อมอ้างว่าสามารถสร้างรายได้กว่า 1 แสนบาทต่อเดือน และไม่ต้องใช้เงินในการเดินทางไป เมื่อสมัครเข้ามาก็จะมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ayesha Rani ติดต่อให้ข้อมูล

จากนั้นจะให้ติดต่อกับ น.ส.ปาลิดา หรือ ลูกปลา โดยมีการนัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งทาง น.ส.ปาลิดา หรือ ลูกปลา จะเป็นผู้นำตั๋วเครื่องบินมาให้ เมื่อไปถึงที่นั้น เหยื่อทั้งหมดก็จะถูกยึดพาสปอรต์และตัดขาดจากการสื่อสาร โดยคนคุมจะบอกกับเหยื่อ ว่า ได้เป็นหนี้กับทางร้านจำนวนเงิน 1,600 เรียลโอมาน หรือ ประมาณ 160,000 บาท ก่อนจะบังคับให้ค้าประเวณีตั้งแต่ 19.00 น.จนถึงตี 5 ของอีกวัน

โดยจะให้ไปยืนข้างถนน หากหาแขกมาร่วมหลับนอนไม่ได้ ก็จะให้ยืนต่อไปจนกว่าจะมีแขก หากไม่ได้แขกอีกจะไม่ให้เข้าไปนอนในที่พัก โดยจะให้นอนข้างถนนแทน ส่วนเงินที่ได้จากแขกก็จะยึดไว้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีเงินติดตัว เป็นการป้องกันการหลบหนี และต้องทำงานขายตัวใช้หนี้ไปประมาณ 2 – 3 เดือน โดยไม่มีการหยุดพัก ถึงจะคืนพาสปอร์ตและปล่อยให้เดินทางกลับ อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกเป็นการยกระดับในการเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการค้ามนุษย์ ที่ได้มีการประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติในต่างประเทศ รวมถึงสถานทูตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนประสบความสำเร็จ

ความคิดเห็น

comments