กระทรวงกลาโหมของไนเจอร์เผยในวันเสาร์ (1 ตุลาคม) ระบุ ปฏิบัติการร่วมทางทหารระหว่างกองกำลังของตนและประเทศเพื่อนบ้านอย่างชาด ในการกวาดล้างกลุ่มโบโก ฮารัม ที่เปิดฉากขึ้นนับตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสามารถปลิดชีพสมาชิกกลุ่มสุดโต่งนี้ได้ทั้งสิ้น 123 รายและยังสามารถยึดอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมาก
ปฏิบัติการร่วมทางทหารระหว่างกองทัพชาดและไนเจอร์ดังกล่าวเปิดฉากขึ้นในเดือนกรกฎาคม เพื่อเป็นการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มโบโกฮารัม ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ทำให้มีทหารจากกองทัพไนเจอร์เสียชีวิตไปอย่างน้อย 30 นาย
มุสตอฟา เลอดรู โฆษกกระทรวงกลาโหมของไนเจอร์ ระบุ มีกำลังทหารผสมระหว่างไนเจอร์และชาดเสียชีวิตรวม 14 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 39 นายระหว่างการเปิดศึกกับกลุ่มโบโก ฮารัม
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นในระหว่างการประชุมนอกรอบ หลังการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ (United Nations General Assembly) ภายใต้การผลักดันของนางซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติ
ภูมิภาครอบทะเลสาบชาดดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย ภาคเหนือของแคเมอรูน รวมถึงที่ตั้งของประเทศไนเจอร์ และชาด ถูกรุมเร้าด้วยปัญหาความรุนแรงที่ก่อโดยสมาชิกกลุ่มโบโก ฮารัม มายาวนานหลายปี จนส่งผลกระทบให้เกิดภาวะ “ความไม่มั่นคงทางอาหาร” ที่ส่งผลให้ผู้คนมากกว่า 6 ล้านคนในภูมิภาคแห่งนี้ ต้องการความช่วยเหลือทางด้านอาหารอย่างเร่งด่วน ขณะที่อีกไม่ต่ำกว่า 2.6 ล้านคนต้องกลายสภาพเป็นผู้ลี้ภัยสงคราม
เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน กระทรวงกลาโหมของไนเจอร์แถลงยืนยันว่าสามารถปลิดชีพสมาชิกกลุ่ม โบโก ฮารัม จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไนจีเรียได้อย่างน้อย 38 ศพ ระหว่างปฏิบัติการกวาดล้างพวกนักรบสุดโต่งในเขตดิฟฟา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงมหาดไทยของไนเจอร์แถลงโดยระบุ มีทหารของฝ่ายตนเสียชีวิตจำนวน 5 นาย และมีสมาชิกกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัม ถูกสังหารอย่างน้อย 30 ราย ในระหว่างการยิงปะทะต่อเนื่องนานถึง 5 วันเต็ม
ทั้งนี้ ปัญหาความไม่สงบและเหตุรุนแรง ที่ก่อโดยกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัมที่เริ่มปะทุ ขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2009 ส่งผลให้เวลานี้มีชาวไนจีเรียและผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านรายรอบ “ภูมิภาคทะเลสาบชาด” ทั้ง ชาด แคเมอรูนและไนเจอร์ ได้รับผลกระทบรวมแล้วกว่า 20 ล้านราย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี มูฮัมมาดู บูฮารี ผู้นำไนจีเรียประกาศกร้าวเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยระบุกองทัพไนจีเรียเป็นฝ่ายมีชัยชนะในทางเทคนิคเหนือกลุ่ม โบโก ฮารัม แล้ว โดยยืนยันว่าทางกองทัพสามารถทำลายศักยภาพในการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มสุดโต่ง ที่เคลื่อนไหวอยู่ทางภาคเหนือของประเทศกลุ่มนี้ลงได้อย่างสำคัญ
ผู้นำดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดของทวีปแอฟริกาเผยผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์บีบีซี โดยระบุการกวาดล้างอย่างหนักของกองทัพไนจีเรียตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทำลายขีดความสามารถในการก่อเหตุโจมตีเต็มรูปแบบของกลุ่มโบโก ฮารัมลงได้อย่างสำคัญ จนกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งกลุ่มนี้ต้องหันไปใช้เพียงการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในระยะหลัง นั่นหมายความว่าทางการไนจีเรียเป็นฝ่ายที่มีชัยชนะในทางเทคนิคเหนือกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้แล้ว ถึงแม้จะยังไม่สามารถกำจัดกลุ่มโบโก ฮารัมได้อย่างสิ้นซากก็ตาม
ก่อนหน้านี้ อดีตนายพลชื่อดังอย่างบูฮารีที่สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งผู้นำไนจีเรียได้เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ประกาศกำหนดเส้นตาย ให้ทางกองทัพขุดรากถอนโคนภัยคุกคามจากกลุ่มโบโก ฮารัมภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2015 และประกาศเดินหน้าสร้างงานและขยายโอกาสการศึกษาแก่บรรดาเยาวชน ในพื้นที่ห่างไกลแถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หวังป้องกันมิให้เยาวชนในพื้นที่ถูกดึงเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธนี้ ที่มีจุดมุ่งหมายในการสถาปนาการปกครองแบบรัฐสุดโต่งขึ้นในภาคเหนือของไนจีเรีย
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มโบโก ฮารัม ซึ่งดำเนินมานานกว่า 6 ปีนับตั้งแต่ปี 2009 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วไม่น้อยกว่า 20,000 ราย โดยในระยะหลังกลุ่มโบโก ฮารัมซึ่งต้องการสถาปนารัฐของตนขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรียได้เริ่มข้ามเขตแดนไปก่อเหตุรุนแรงในประเทศไนเจอร์ แคเมอรูน และชาด ต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มดาอิชในซีเรีย และอิรัก ไปก่อนหน้านี้ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลุ่มร้าวหนัก หลังกลุ่มดาอิชประกาศตั้งผู้ทำใหม่โบโก ฮารัมขึ้นแทน อบูบากัร เซเกา จนทำให้เซเกาต้องออกมาเผยคลิปยืนยันว่าตนเองยังเป็นผู้นำของกลุ่มเช่นเดิม